ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 57.30 จุด ปิดที่ 5,137.72 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,042.66-5,145.58 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า จีดีพีขยายตัว 3.5%ต่อปีในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการขยายตัวไตรมาสแรกหลังจากหดตัวมากว่า 1 ปี และขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 3.2%ต่อปี
อังกัส แคมป์เบลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Spreads ในลอนดอนกล่าวว่า จีดีพีไตรมาส 3 ที่ขยายตัวเร็วเกินคาดของสหรัฐช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนคึกคักขึ้น โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเอ็กซตราต้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดของโลกพุ่งขึ้น 7.4% หุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของคาซัคสถาน ปิดบวก 6.6%
หุ้นธนาคารลอยด์ปิดบวก 7.5% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลสด์ ปิดพุ่ง 9.5%
ส่วนหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 2.95% หลังจากรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป รายงานผลกำไรไตรมาส 3 ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกดดันให้ดีมานด์เชื้อเพลิงอ่อนตัว รวมถึงราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลง โดยผลกำไรสุทธิไตรมาส 3 ของบริษัทร่วงลง 62% แตะ 3.25 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.45 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายร่วงลง 43% แตะ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์