น.พ.ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH)คาดว่า แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโต 3-5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.18 หมื่นล้านบาท เนื่องจากอัตราการเข้ารักษามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเดือน ส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี โดยเฉพาะการเข้ามารับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ประเมินว่าจะกลับมาระบาดในรอบสองและหนักกว่าเดิม เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว
และบริษัทได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วย โดยได้เพิ่มจำนวนห้องไว้รองรับโดยเฉพาะจากในการระบาดครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งการเข้ามารักษาของผู้ป่วยต่างชาติที่มากขึ้นที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในโรคเฉพาะทาง
นพ.ชาตรี กล่าวว่า แม้บริษัทจะเชื่อว่าแนวโน้มรายได้และอัตราการเข้ามารักษาของผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หรือเป็นบวกจากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 2% แต่คงไม่ได้ปรับตัวอย่างมีนัย เพราะเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มฟื้น แต่ปีหน้าคงจะดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะหันไปเจาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยุโรปและสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้รายได้ในแง่ของต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปีนี้ 40% ซึ่งแผนการการขยายไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ถือว่าอยู่ในแผน 3 ปีของบริษัท
"การที่รายได้จะปรับขึ้นหรือไม่ คงขึ้นกับเดือน พ.ย.นี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่รายได้จะปรับเพิ่มขึ้น เพราะเดือน พ.ย.อัตราการเข้ามารักษาจะเพิ่มขึ้นและมีเรื่องไข้หวัดอีก ซึ่งจะทำให้คนหันมาใส่ใจตรวจรักษามากขึ้น ส่วนกำไรในปีนี้ยืนยันว่าเติบโตแน่นอน ไม่ขายหน้าใคร เพราะที่ผ่านมากลุ่มโรงพยาบาลก็พยายามลดค่าใช้จ่าย แต่คงน้อยกว่าการเติบโตรายได้" นพ.ชาตรี กล่าว
ส่วนการที่น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทเชื่อว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมากขึ้น