นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ควอลลีเทค (QLT) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอแนวทางการร่วมทุนพันธมิตร ต่อคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 7 พ.ย.นี้ เพื่อจะขยายงานหรือรองรับงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศเพียง 5% ซึ่งจะส่งผลต่อดีต่อรายได้ของบริษัทในระยะยาว นอกเหนือจากงานตรวจสอบในประเทศที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้อยู่ 95%
"ขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจา 1-2 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้สรุปภายในไตรมาส 4 นี้ ที่บริษัทหาพันธมิตรเพื่อต้องการขยายงานในต่างประเทศ ซึ่งประเทศในตะวันออกกลาง ถือเป็นประเทศที่บริษัทให้ความสนใจ เพราะเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มอุตสหากรรมน้ำมันและ แก๊ส รวมทั้งมีโครงการต่างๆเกิดขึ้นค่อนข้างมาก และต้องการการตรวจสอบ" นายสรรพัชญ์ กล่าว
ส่วนแนวทางร่วมทุนพันธมิตร ขณะนี้มีหลายแนวทาง คงจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท
นายสรรพัชญ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ จำนวน 250 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในไตรมาส 4/52 ในสัดส่วน 20-30% ของมูลค่างาน และที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า
นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะได้งานการตรวจสอบคุณภาพท่อก๊าซเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ของ บมจ. ปตท. ( PTT) มูลค่า 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในการรับงานในไตรมาส 4/52 จะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัท ในไตรมาส 4/52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 3/52
ทำให้บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่เติบโต 10% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 245 ล้านบาท ขณะเดียวกันคาดว่าจะมี อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่ 25% เนื่องจากงานตรวจสอบมีมาร์จิ้นสูง และบริษัทได้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีชึ้น
"เท่าที่ผมประเมินบริษัท ถือว่าตอนนี้ลูกค้าให้ความสนใจในการตรวจสอบมากขึ้น ตลาดก็ตอบสนองได้ดีขึ้น แม้ไตรมาส 2 และ 3 จะมีโรงงานอุตสาหกรรม และเคมี หยุดการใช้งาน ทำให้บริษัทได้งานเข้าตรวจสอบ ในช่วงนั้น และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทมีแนวโน้มในการจ่ายปันผล ในงวดครึ่งปีหลังได้มากกว่าครึ่งปีแรก ที่จ่าย 0.15 บาท" กรรมการผู้จัดการ QLT กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัท มีแผนซื้อเครื่องมือการตรวจสอบแบบไม่ทำลายขั้นสูง โดยคาดจะใช้เงินทุน 10 ล้านบาท เพื่อรองรับงานตรวจสอบเชิงลึกมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าให้ความสนใจ 1-2 ราย เช่นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของลูกค้าในไตรมาส 4/52 และหากได้งานตรวจสอบเพิ่มเติมในขนาดใหญ่มากขึ้น บริษัทจะพิจารณาการลงทุนเครื่องมือเพิ่มขึ้นอีก