ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอังกฤษ จีนและสหรัฐ รวมทั้ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 59.95 จุด แตะที่ 5,104.50 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,022.52-5,115.70 จุด
โจชัว เรย์มอนด์ นักวิเคราะห์จาก City Index ในลอนดอนกล่าวว่า หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์โลหะจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรม พุ่งขึ้นแตะระดับ 55.2 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 54.3 จุด สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดบวก 4.5% หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ปิดบวก 4.7% หุ้นลอนมินปิดบวก 4.9% และหุ้นริโอ ตินโต ปิดพุ่ง 5.5% ส่วนหุ้นแรนด์โกลด์ทะยานขึ้น 6 % หลังจากมีข่าวว่าแรนด์โกลด์ทำข้อตกลงกับบริษัทแองโกลโกลด์ อะชานติว่าเพื่อซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 20% ในโครงการเหมืองทองโมโตในคองโก
โฮมแทรค (Hometrack Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษและเวลส์เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. แตะระดับ 156,400 ปอนด์ หรือ 258,000 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นและภาวะขาดแคลนอสังหาริมทรัพย์ทำให้มูลค่าบ้านปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในเย็นวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจขยายโครงการซื้อตราสารหนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มล้าหลังประเทศอื่นๆทั่วโลก และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในที่ประชุมครั้งนี้