นายกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการณ์ บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC)เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ายอดรับรู้รายได้ปี 52 เป็น 4.4 พันล้านบาท จากเดิม 4 พันล้านบาท หลังปรับเพิ่มยอดขายปี 52 เป็น 4.6 พันล้านบาท จากเดิมคาด 4.2 พันล้านบาท
เนื่องจากยอดขายโครงการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส 2/52-ไตรมาส 3/52 มียอดขาย 1.4-1.5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 ที่มียอดขาย 1.2 พันล้านบาท และมากกว่าไตรมาส 1/52 ที่มียอดขายกว่า 600 ล้านบาท
และจากแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้น ทำให้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในไตรมาส 4/52 และต่อเนื่องไปยังปีหน้า โดยคาดว่าปี 52 อัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็น 16-17% จาก 15% ในปี 51 สาเหตุมาจากบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและการมียอดขายที่ดีขึ้น
นายกรี กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปี 53 มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 52 โดยในปีหน้าบริษัทยังคงมีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องจากปีนี้ คาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 6 โครงการ มูลค่า 4 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1 แห่งย่านพหลโยธิน และที่เหลือเป็นโครงการแนวราบ
ปัจจุบัน SC มีงานในมือประมาณ 2 พันล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 500 ล้านบาท ที่เหลือจะไปรับรู้รายได้ในปีหน้า
"เท่าที่เราดูตัวเลขมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากของการเติบโตทั้งยอดขายและยอดรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น เราเห็นจากการเข้ามาชมโครงการและการตัดสินใจในการซื้อบ้าน โดยเฉพาะในระดับราคาสูง แต่หลังจากนี้ไปการแข่งขันคงจะไม่รุนแรงแล้ว รายใหญ่คงจะไม่รบกันเหมือนแต่ก่อน สงครามโปรโมชั่นและสงครามราคาก็ไม่ค่อยมีแล้ว จะเห็นการสร้างแบรนด์กันมากขึ้น"นายกรี กล่าว
บริษัทมีแผนพัฒนาออฟฟิศให้เช่าเพิ่มจากที่มีอยู่ 3 อาคาร คือ ชินวัตร 1, 2, 3 โดยอาคารชินวัตร 1 และ 2 ปัจจุบันมีอัตราการเช่าเต็ม 100% แต่การพัฒนาออฟฟิศให้เช่าแห่งใหม่คงจะต้องพิจารณาในเรื่องของทำเลและการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า 20% และที่เหลือเป็นรายได้จากการขายที่อยู่อาศัย
นายกรี กล่าวอีกว่า บริษัทมีงบลงทุนซื้อที่ดินของปี 52 เหลืออยู่ 800 ล้านบาท จากงบทั้งปีที่ 1.5-1.6 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำมาใช้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ 1-2 แปลง เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปี 54 รวมทั้ง ยังเตรียมเงินลงทุนในปี 53 อีก 2 พันล้านบาทเพื่อรองรับแผนงานในปีถัดไปด้วย
"แผนพัฒนาโครงการปี 53 ตอนนี้เราเตรียมที่ดินไว้หมดแล้ว ส่วนที่ดินที่เราจะซื้อในปีหน้า ก็จะเตรียมไว้ใช้พัฒนาโครงการของปีต่อไป"นายกรี กล่าว
นายกรี กล่าวต่อว่า บริษัทคงไม่มีแผนเพิ่มทุน เพราะปัจจุบันยังมีวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ทั้งรายเดิมและรายใหม่ ประมาณ 2 พันล้านบาทที่ยังสามารถเบิกจ่ายออกมาลงทุนพัฒนาโครงการได้ และยังมีวงเงินที่เตรียมออกหุ้นกู้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเห็นการออกหุ้นกู้ในปี 53 วงเงิน 1-1.5 พันล้านบาท โดยหลักๆ จะนำไปใช้ซื้อที่ดินในอนาคต