"เอสซีจี เคมิคอลส์"เดินหน้า HIA ตามมาตรฐานโลก-รับผลกระทบจากโครงการล่าช้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 3, 2009 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชลณัฐ ญาณารณพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าโครงการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ(Health Impact Assessment -HIA)สำหรับโครงการลงทุนด้านปิโตรเคมีขั้นต้น(Naphtha Cracker)และขั้นปลายต่อเนื่องที่มาบตาพุด แม้ว่าศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้ระงับโครงการลงทุน 76 โครงการไว้เป็นการชั่วคราว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนด 18 เดือน ซึ่งเริ่มทำการศึกษาตั้งแต่กลางปี 52

บริษัทต้องมีการเตรียมทำตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และมาตรา 67(2)เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการทำตามมาตรฐาน HIA ล่วงหน้าจะส่งผลดีต่อการลงทุนของบริษัท แม้ว่าภาครัฐยังไม่มีข้อกำหนดมาตรฐาน HIA ที่ชัดเจน แต่การที่บริษัทได้ทำการศึกษาตามมาตรฐานโลก ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา

นายชลณัฐ กล่าวถึงผลกระทบในโครงการปิโตรเคมี ซึ่งลงทุน 1 แสนล้านบาทก็จะกระทบรายได้ 1 แสนล้านบาทเช่นเดียวกัน และทำให้การก่อสร้างในเฟสที่ 2 ต้องล่าช้าออกไป

ส่วนโครงการปิโตรเคมีในเวียดนาม หลังจากสถานการณ์ปิโตรเคมีในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้น ทำให้บริษัทรื้อฟื้นโครงการขึ้นมาเพื่อเตรียมเดินหน้าลงทุน จากเดิมที่คาดว่าจะชะลอออกไปไม่มีกำหนดหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหา Project Finance แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อใด เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีความชัดเจนเรื่องเงินลงทุนก่อน

นายชลณัฐ กล่าวว่า ปีหน้าเชื่อว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะเข้าสู่ช่วงขาลงอย่างชัดเจน เพราะจะมีกำลังการผลิตอีก 6 ล้านตันเพิ่มเข้ามาในตลาดโลก แต่ขณะเดียวกันก็มีธุรกิจปิโตรเคมีที่ปิดตัวไปในช่วงวิกฤต ทำให้ปริมาณการผลิตหายไปประมาณ 5 ล้านตัน ดังนั้น สถานการณ์ที่แท้จริงก็ยังต้องรอประเมินก่อน

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามองว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะเข้าสู่ขาลง แต่การที่โครงการลงทุนของบริษัทล่าช้าก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากไม่ว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แต่หากโครงการต้องล่าช้าออกไปก็ย่อมส่งผลกระทบต่อแผนงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ