ทริสคงอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ TUF ที่ระดับ“A+"แนวโน้ม“Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 4, 2009 08:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของ บมจ. ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) ที่ระดับ “A+" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่"

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในฐานะผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ระดับโลก การมีสินค้าและฐานลูกค้าที่หลากหลาย และความแข็งแกร่งของเครื่องหมายการค้าปลาทูน่ากระป๋อง “Chicken of the Sea"

นอกจากนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงผลงานของคณะผู้บริหารที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมอาหารทะเลและนโยบายในการขยายกิจการที่ระมัดระวังของบริษัท อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากความอิ่มตัวของอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องในประเทศสหรัฐอเมริกา ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาปลาทูน่า และการแข่งขันของผู้ประกอบการจากประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่า รวมทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าจากประเทศคู่ค้ารายสำคัญ และความผันผวนของค่าเงินบาท

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์จะยังคงรักษาความแข็งแกร่งในการแข่งขันเอาไว้ได้จากการประหยัดจากขนาดและความมีประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งจะใช้ความระมัดระวังในการขยายธุรกิจด้วย

ทริสเรทติ้งรายงานว่า TUF เป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็งรายใหญ่ของประเทศไทย โดยมียอดขายในปี 51 อยู่ที่ 69,048 ล้านบาท บริษัทมีกำลังการผลิตปลาทูน่ากระป๋อง ณ เดือน พ.ย.52 อยู่ที่ 400,000 ตันต่อปี ส่งผลทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้แปรรูปปลาทูน่าชั้นนำระดับโลก ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของบริษัทมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการรวมงานด้านบรรจุภัณฑ์เข้ากับเครือข่ายกระจายสินค้า

นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าที่หลากหลาย โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 52 ปลาทูน่ากระป๋องสร้างรายได้ให้บริษัทมากที่สุดคิดเป็นประมาณ 44% ของยอดขายในรูปเงินดอลลาห์สหรัฐ ตามด้วยกุ้งแช่แข็ง 19% อาหารทะเลกระป๋อง 9% และอาหารสัตว์กระป๋อง 9% ตลาดส่งออกหลักของบริษัทประกอบด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา (50%) สหภาพยุโรป (13%) และญี่ปุ่น (11%) ผู้บริหารของบริษัทเป็นผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารทะเลมากกว่า 2 ทศวรรษ

ในขณะที่บริษัทเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าปลาทูน่ากระป๋อง “Chicken of the Sea" ซึ่งจำหน่ายมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประเทศสหรัฐฯ การซื้อลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Chicken of the Sea" เต็ม 100% ในปี 44 ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงเกือบเท่าตัว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวยังช่วยให้บริษัทเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสินค้าอาหารทะเลมูลค่าเพิ่ม (Value-added Product)

ฐานะทางการเงินของ TUF ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 52 ปรับตัวดีขึ้นจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ราคาปลาทูน่าที่ลดลงและมีเสถียรภาพมากขึ้นช่วยลดแรงกดดันต่อสัดส่วนรายได้ต่อยอดขายและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 52 บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายอยู่ที่ 7.6% เพิ่มขึ้นจาก 5.6% ในปี 51 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ เดือน ก.ย.52 อยู่ที่ 44.7% ปรับตัวดีขึ้นจาก 52.0% ในปี 51 ส่วนสถานะสภาพคล่องก็ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 52 อยู่ที่ 9.3 เท่า ผลประกอบการของบริษัทน่าจะยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่งจากราคาปลาทูน่าและค่าเงินบาทที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดไม่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากบริษัทมีธุรกิจที่หลากหลายและมีสินค้าราคาไม่สูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ