(เพิ่มเติม) คลอดแผนพัฒนาตลาดทุน แปรรูป ตลท.-เป้ามูลค่าตลาดระดมทุน 130%ต่อGDP

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 4, 2009 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)ผ่านแผนพัฒนาตลาดทุนไทย(ปี 53-57)ประกอบด้วย 8 มาตรการหลัก เน้นผลักดันการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เป็นองค์กรมหาชนในปี 54 เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

พร้อมตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าตลาดตราสารทุน ยอดคงค้างตราสารหนี้ มูลค่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อจีดีพีเป็น 130% ในปีสุดท้ายของแผน จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 86% ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจประเทศในปี 53-57 ขยายตัวปีละ 4-5% ขณะที่ตั้งเป้าจำนวนผู้มีบัญชีซื้อขายหุ้นทุนและจำนวนผู้มีบัญชีหน่วยลงทุนในกองทุนรวมต่อจำนวนประชากรเพิ่มเป็น 5% ในปี 57 จาก 2.4% ในปี 51

"ความผันผวนของตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์จะต้องเข้าไปดูแล แต่มองว่ากฎกติกาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเพียงพอที่จะไม่ทำให้การซื้อขายใตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวน มีมาตรการรองรับเพียงพอแล้ว อย่างเซอร์กิตเบรกเกอร์ก็ช่วยทำให้ไม่เกิดตัวเหวี่ยงของดัชนีมากเหมือนแต่ก่อน"นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ตอบคำถามที่ว่าการตั้งเป้าหมายไว้ในระดับสูงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดผันผวนหรือไม่

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.คาดว่า จะสามารถปรับโครงสร้างของ ตลท.และการแปรรูปให้เป็นองค์การมหาชนได้ในปี 54 เนื่องจากมาตรการแรกของแผนพัฒนาตลาดทุนไทยคือการยกเลิกการผูกขาดและการยกระดับความสามารถการแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์

ภายใต้มาตรการแรกสืบเนื่องจากมีการเปิดเสรี มีการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างประเทศ และมีธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ในรูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์ไทย ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ไทยจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ลงทุนและบริษัทจดทะเบียนและสถาบันที่เป็นตัวกลางต่าง ๆ โดยจะมีการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นมหาชนจำกัด คาดว่าจะมีความพร้อมภายในปี 54

การปฏิรูป ตลท.จะมีการแยกงานด้านธุรกิจตลาดหลักทรัพย์และงานด้านการพัฒนาตลาดทุนออกจากกัน และจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund: CMDF) ขึ้นเป็นหน่วยงานที่เข้ามาดูแลด้านการพัฒนาตลาดทุนในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน โดยยกเลิกการผูกขาดการประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์ เปิดสิทธิการซื้อขายให้แก่ผู้ร่วมตลาดที่ไม่ใช่สมาชิก (open access) และเปิดโอกาสให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนนอกตลาดได้ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเป็นการขยายฐานการลงทุนให้มีความเชื่อมโยงกับตลาดโลก เพื่อลดข้อจำกัดต่อการเติบโตของตลาดทุนไทยในอนาคต

มาตรการที่ 2 คือ การเปิดเสรีและการเพิ่มประสิทธิภาพของสถาบันตัวกลางให้สอดคล้องกับกระแสการเปิดเสรีระบบการเงิน และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ตลาดทุนไทยสามารถรองรับการเคลื่อนย้ายของเงินทุนที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงกำหนดให้มีการเปิดเสรีใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (commission) เพื่อลดข้อจำกัดด้านจำนวนใบอนุญาตให้หมดไป

มาตรการที่ 3 การปฏิรูปกฎหมายสำหรับการพัฒนาตลาดทุน ปัจจุบัน มีกฎหมายที่อยู่ในขั้นตอนการเสนอร่างสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร คือ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 , ร่าง พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ควรได้รับการผลักดัน อย่างต่อเนื่องจากรัฐบาล

และคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยเห็นสมควรให้มีการปฏิรูปกฎหมายเพิ่มเติม ได้แก่ การเสนอกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการควบรวมกิจการเพื่อขจัดข้อจำกัด, การกำหนดมาตรการบังคับทางกฎหมายที่เป็นทางเลือกอื่นนอกจากทางอาญา เช่น มาตรการลงโทษทางแพ่งและมาตรการบังคับทางปกครอง เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ ผลักดันร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (class action)

มาตรการที่ 4 การปรับระบบภาษีสำหรับการพัฒนาตลาดทุน เพื่อขจัดอุปสรรคทางภาษีต่อการทำธุรกรรมในตลาดทุนไทย ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีให้มีความเป็นกลาง รวมทั้งการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกรรมที่รัฐต้องการให้ความสนับสนุนเพื่อการพัฒนาตลาดทุนไทย

แนวทางการปรับปรุงกฎหมายภาษีจะครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การปรับโครงสร้างและการควบรวมกิจการ การลงทุนในตราสารหนี้ การขจัดปัญหาภาระภาษีซ้ำซ้อนกรณีเงินปันผลที่บริษัทจำกัดได้รับจากบริษัทอื่น การให้สิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมระหว่างการลงทุนตรงและลงทุนผ่านตัวกลาง การโอนย้ายเงินออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนการออมแห่งชาติ การลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิต ตราสารการเงินเพื่อระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และธุรกิจเงินร่วมลงทุน

มาตรการที่ 5 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ให้มีแนวทางผลักดันให้เกิดกลุ่มสินค้าทางการเงินใหม่ๆ ได้แก่ การจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure fund) การส่งเสริมการออกกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ การเปิดให้ซื้อขายตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย หรือพันธบัตรรัฐบาลเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุน การระดมทุนที่สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลาม การส่งเสริมธุรกิจเงินร่วมลงทุน และการนำหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่กระจายใน ตลท. เพิ่มขึ้น

มาตรการที่ 6 การจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งจะเป็นแหล่งเงินออม และเงินทุนที่สำคัญภายในประเทศอันจะส่งผลต่อเนื่องสำหรับการพัฒนาตลาดทุนไทยในภาพรวม ช่วยลดความผันผวนจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งยังส่งผลทางอ้อมต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ตามความต้องการเงินทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย

มาตรการที่ 7 การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนผ่านการออมระยะยาวให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง เพื่อให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการมีโอกาสเลือกแผนการลงทุนที่สอดคล้องกับความต้องการของตนเอง และเพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวที่จะแสวงหาความรู้ความเข้าใจในสินค้าตลาดทุน จึงจำเป็นต้องผลักดันในเรื่องของ employee’s choice ให้เกิดขึ้น โดยให้สามารถครอบคลุมทั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ที่จะต้องมีนโยบายการลงทุนมากกว่า 1 แบบ

และ มาตรการที่ 8 การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาวิธีการบริหารเงินสดของรัฐบาล รวมถึงการศึกษาแนวทางและยกร่างการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับเงินคงคลังเพื่อให้รัฐบาลสามารถออกตั๋วเงินคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำเงินคงคลังมาบริหารให้มีผลตอบแทนได้ และธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นแกนนำในการส่งเสริมการทำธุรกรรม private repo และ SBL (Securities Borrowing and Lending) ที่จะช่วยให้ตลาดตราสารหนี้มีเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพและมีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลต่อการเพิ่มสภาพคล่องโดยรวมของตลาดให้สูงขึ้นอีกด้วย นอกจากมาตรการเพื่อการปฏิรูปตลาดทุนไทยที่จะมีผลกว้างไกลต่อการพัฒนาตลาดทุนไทยและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ 8 มาตรการที่กล่าวมาข้างต้น ในแผนพัฒนาตลาดทุนไทยยังบรรจุมาตรการเสริมอีกกว่า 30 มาตรการที่ควรจะต้องดำเนินการ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการปรับสภาวะแวดล้อมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ของตลาดทุนไทยในระยะยาว อันจะนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายของแผนพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ