(เพิ่มเติม) JUBILEE คาดปี 53 รายได้โต 20% ขยายสาขาเพิ่ม 5 แห่ง-ออกแบรนด์พรีเมียม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 4, 2009 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์(JUBILE) ผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดเพชรกะรัตและเครื่องประดับเพชร ภายใต้แบรนด์“เพชรยูบิลลี่"ตั้งเป้ารายได้ปี 53 เติบโตในอัตรา 20% ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยเตรียมออกแบรนด์เครื่องประดับเพชรใหม่เพื่อเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าพรีเมียม ระดับราคาชิ้นละ 4-5 หมื่นบาทขึ้นไป คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3/53 และยังศึกษาการขยายตลาดต่างประเทศเริ่มจากสิงคโปร์

"การที่บริษัทมีแผนเจาะกลุ่มพรีเมี่ยมมากขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รูปทรงใหม่ๆ การขยายไลน์ การผลิตในคอลเลคชั่นใหม่ ไดมอนด์ ไลน์ รุ่นใหม่ ทำให้วางงบการตลาดในปีหน้าเพิ่มขึ้น 5-7% ของรายได้ จากปีนี้ที่ใช้งบการตลาด 3-5% และคาดว่ายอด ขายจากไดมอนด์ ไลน์รุ่นใหม่จะอยู่ที่ 200-300 ล้านบาท "นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กล่าว

บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 5 แห่งในปีหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 70 แห่ง พร้อมกับแผนขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา โดยระยะแรกจะขายผ่านออนไลน์ และใน 3 ปี จะเป็นปรับรูปแบบการขายผ่านเคาท์เตอร์ โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายหลักมาจากเคาท์เตอร์กว่า 90% ส่วนที่เหลือ 1-2% เป็นการขายผ่านกรุงไทยลีสซิ่ง

นางสาวอัญรัตน์ คาดว่าตลาดรวมค้าปลีกเครื่องประดับเพชรในช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางเคาน์เตอร์ในปี 53 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 52 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 6,744 ล้านบาท โดยเพชรยูบิลลี่มีส่วนแบ่งอยู่ในตลาดนี้ประมาณ 10% และเชื่อมั่นว่าแผนการตลาดในปี 53 จะช่วยผลักดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 12-13% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่ง 10% และวางการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20%จากปีนี้

สำหรับปีนี้ช่วงไตรมาส 3/52 และไตรมาส 4/52 คาดว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมือง นอกจากนี้ในไตรมาส 3/52 ได้มีการจัดอีเวนท์และออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่มากขึ้น เพื่อรองรับไฮซีซั่นที่คาดว่าจะมีคนมาซื้อมากขึ้นในช่วงเทศกาล โดยคาดรายได้ในปีนี้ที่ 650 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปี 51 ขณะที่กำไรสุทธิโต 10% โดย 2 ไตรมาสที่ผ่านมา กำไรเติบโต 8.8%

จากแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปี 53 มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้ากลับมามีอัตราการเติบโตเป็นบวก ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน บริษัทฯ จึงเห็นโอกาสในการรุกขยายธุรกิจเพชรกะรัตและเครื่องประดับเพชรให้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) ในการสั่งซื้อเพชรล็อตใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักรวม 10,000 กะรัต จากบริษัท LUC VETS DIAMONDS จำกัด ประเทศเบลเยี่ยม เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพของ LUC VETS DIAMONDS ที่สามารถจัดหาเพชรที่มีคุณภาพ และการเจียระไนที่ได้เหลี่ยมตรงตามมาตรฐานของบริษัทฯ เพื่อนำมาผลิตเพชรในคอลเลคชั่น “ไดมอน ไลน์" รุ่นใหม่ ที่มีแผนขยายไลน์เครื่องประดับไปสู่ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และจี้เพชร ซึ่งจะทำตลาดเต็มรูปแบบในปี 2553 หลังจากที่ทำตลาดคอลเลคชั่น “ไดมอน ไลน์" ในเครื่องประดับประเภทแหวน และกำไล ไปแล้ว โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้หญิงวัยเริ่มต้นทำงานที่มีอายุ 23 ปีขึ้นไป

“การเซ็นสัญญาเอ็มโอยูในครั้งนี้ ทาง LUC VETS DIAMONDS ที่เป็นซัพพลายเออร์ จะทยอยส่งมอบเพชรจำนวน 10,000 กะรัตให้กับยูบิลลี่ ซึ่งสาเหตุที่เลือกซัพพลายเออร์รายนี้ เนื่องจากเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันมายาวนาน และที่สำคัญที่สุดยังมีความสามารถในการเจียระไนเพชรให้เพชรทุกเม็ดมีมาตรฐานเดียวกันและคุณภาพการเจียระไนยังได้รับการยอมรับในตลาดโลก ทำให้เพชรที่สั่งซื้อเพื่อนำมาผลิตคอลเลคชั่น ‘ไดมอน ไลน์’ รุ่นใหม่ จะได้คุณภาพสินค้าเทียบเท่าระดับคุณภาพในตลาดโลก" นางสาวอัญรัตน์ กล่าว

สำหรับแนวทางทำตลาดเพชรคอลเลคชั่น “ไดมอน ไลน์" ดีไซน์ใหม่นั้น บริษัทฯ มีแผนชูจุดแข็งให้เห็นถึงคุณภาพในการผลิตที่มีดีไซน์การออกแบบที่ร่วมสมัย ประกอบกับซัพพลายเออร์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลกมาเป็นผู้ดูแลในการเจียระไนเพชรในครั้งนี้ เข้ามาช่วยสร้างแข็งแกร่งให้กับตัวสินค้า พร้อมกันนี้ จะเร่งขยายสาขาจากเดิมที่มี 70 สาขาเพิ่มเป็น 75 สาขาภายในสิ้นปี 53 ขณะเดียวกันจะเพิ่มสายการผลิตโดยเน้นผลิตภัณฑ์เพชรที่มีมูลค่าสูงขึ้นกว่าในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น

นางสาวอัญรัตน์ กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยวันแรกในวันที่ 9 พ.ย. ที่ราคาจอง 2.80 บาท เชื่อว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างดีและมีส่วนลดกว่า 20%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ