เจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง)รวมตัวราว 80 คนเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อเรียกร้องขอให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์การหักค่าผลตอบแทน(อินเซนทีฟ)ร้อยละ 25 ไว้เป็นเวลา 6 เดือนก่อนจะพิจารณาจ่ายคืนให้ตามผลงาน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ ม.ค.53 พร้อมกับการใช้ค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันได
กลุ่มมาร์เก็ตติ้งเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวไม่เป็นธรรมและไม่มีเหตุผลสมควร เพราะการหักอินเซนทีฟดังกล่าวจะกระทบกับผลตอบแทนที่ได้รับในแต่ละเดือน และไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่าทางบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดจะคืนให้หรือไม่ อย่างไร เพราะระบุว่าจะพิจารณาคืนให้จากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งเป็นการกำหนดที่ค่อนข้างกว้าง
อย่างไรก็ตาม ตัวแทน ก.ล.ต.ขอให้ทางมาร์เก็ตติ้งกลุ่มดังกล่าว ร่างหนังสือเรียกร้องเพื่อยื่นให้กับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง เพื่อจะได้นำไปพิจารณาต่อไป
มาร์เก็ตติ้งรายหนึ่ง กล่าวว่า การร่างหนังสือฉบับใหม่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีมาร์เก็ตติ้งที่เข้าชื่อเห็นด้วยกัลบข้อเรียกร้องดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากขณะนี้ที่รวบรวมได้แล้ว 1,700 คน จากมาร์เก็ตติ้งทั้งหมดที่มี 5,400 คน โดยมาร์เก็ตติ้งที่ออกมาทเรยกร้องในวันนี้มาจากบริษัทหลักทรัพย์ราว 27-28 แห่ง ซึ่งไม่รวมบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีธนาคารพาณิชย์ถือหุ้นด้วย
นายจงรัก ระรวยทรง กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์ทางสมาคมจะเรียกประชุมสมาชิก เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือมาร์เก็ตติ้ง โดยเบื้องต้นอาจจะใช้การเยียวยามาร์เก็ตติ้งที่มีรายได้น้อยไม่ถึง 27.5 %ของวอลลุ่มการเทรดของลูกค้า อาจไม่เก็บ 25% หรืออาจมีการกำหนดเงินเดือนให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ปัจจุบันเฉลี่ยเงินเดือน 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยแนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางเบื้องต้นโดยจะหารือและให้สมาชิกโหวตและเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ในเรื่องดังกล่าวคงไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะจะกระทบต่อระบบการคิดค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันไดอาจจะล่าช้าออกไปจากที่กำหนดออกมาแล้ว
"ที่ผ่านมาเราพยายามเจรจามาโดยตลอดในเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเรารู้ว่าหากไม่ทำอะไรเลยจะกระทบมาร์เก็ตติ้งแน่นอน เราทำได้เต็มที่ 2 ข้อในเรื่องขั้นบันไดที่ขยายเพิ่มขึ้นและในเรื่องอินเทอร์เน็ตที่คิดค่าคอมมิชชั่นเหมือนเดิมที่ 13.75% แต่ในเรื่องการหักค่าอินเซนทีฟของเจ้าหน้าที่การตลาด 25% ไม่ให้ ซึ่งเราพยายามได้สองข้อก็ถือว่าดีแล้ว และอีกอย่างเรื่องทั้งหมดก็มีการประกาศมาตั้งแต่ปี 2549 อย่างเรื่องหักค่าอินเซนทีฟเราพยายามช่วยเหลือด้วยการขอผ่อนผันด้วยการไม่หักมา 3 ปีแล้ว" นายจงรัก กล่าว
นายจงรัก กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมามีหนังสืออย่างไม่เป็นทางการจากโบรกเกอร์จำนวน1-2 แห่งถึงการย้ายงานของมาร์เก็ตติ้งมากผิดปกติโดยพบว่าในเดือนพ.ย มีการย้ายงานมากที่สุดถึง 20-30 คนจากปกติที่จะมีการย้ายงาน 1-2 คนต่อเดือน