ASP แจง Q3/52 พลิกมีกำไรเหตุการซื้อขายหลักทรัพย์-ตราสารอนุพันธ์ดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 5, 2009 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ชี้แจงผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวมไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิเป็นจำนวนเงิน 172.89 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 มีผลขาดทุนสุทธิเป็นจำนวนเงิน 33.15 ล้านบาท

เนื่องจากสาเหตุหลัก คือ บริษัทมีรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 จำนวน 284.54 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.14 เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ MAI เพิ่มขึ้นเป็น 21,789.42 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 เปรียบเทียบกับปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน 12,292.25 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.26 และบริษัทมีปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันเท่ากับ 2,474.40 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน 1,212.35 ล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เพิ่มขึ้นร้อยละ 104.10

บริษัทมีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 จำนวน 126.64 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ 95.12 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นไปตามสภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ร คาปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 จำนวน 10.97 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ลดลงร้อยละ 32.58 เนื่องจากบริษัทมีการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง และอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลงตามสภาวะตลาดการเงิน

ด้านค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 279.03 ล้านบาทเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2551 เพิ่มขึ้น 78.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.22 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้า ส่วนการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเจ้าหน้าที่การตลาดซึ่งผันแปรตามปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น

สำหรับผลดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2552 บริษัทมีรายได้รวม 1,179.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2551 จำนวน 71.76 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญมาจากบริษัทมีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์จำนวน 239.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2551 จำนวน 169.99 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายงวด 9 เดือนของปี 2552 บริษัทมีค่าใช้จ่าย 696.53 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2551 จำนวน 138.57 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 16.59 ซึ่งเกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินและค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ