ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหุ้นสามัญของ บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำนวน 170,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 170,000,000 บาท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และ ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "JUBILE" และกำหนดให้เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 170 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 135 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO : Initial Public Offering) จำนวน 35 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายในราคาหุ้นละ 2.80 บาท มูลค่ารวม 98 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ JUBILE ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 5 ล้านหน่วยให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท อายุ 5 ปีโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ขยายกิจการและเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ทั้งนี้ ณ ราคาไอพีโอ JUBILE มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) 10.94 เท่า โดยในส่วนของกำไรต่อหุ้นคำนวณจากผลการดำเนินงานในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 — 30 มิถุนายน 2552) หารด้วยจำนวนหุ้นหลังการเสนอขายครั้งนี้และหลังการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้กับกรรมการและพนักงาน รวมทั้งสิ้นเท่ากับ 175 ล้านหุ้น
JUBILE มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JUBILE 3 รายแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายวิโรจน์ พรประกฤต ถือหุ้นร้อยละ 60 บริษัทร่วมทุน เค เอส เอ็ม จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 8.82 และนายประเสริฐ บุญมาแย้ม ถือหุ้นร้อยละ 2.26
JUBILE ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับ เพชรกะรัต และเพชรเจียระไนที่ยังไม่ขึ้นตัวเรือน (เพชรร่วง) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เพชรยูบิลลี่" โดยมีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านพันธมิตร เช่น บริษัทลิสซิ่ง และบัตรเครดิต โดยเน้นกลยุทธ์การตลาดที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพสูง และสร้างความมั่นใจด้วยใบรับประกันคุณภาพจากสถาบันในต่างประเทศ