นายสุรศักดิ์ ดุษฎีเมธา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้สนับสนุนเงินกู้ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของ บมจ. เอสวีไอ (SVI) ในการทำธุรกรรมประเภทการเข้าซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (Management Buyout หรือ MBO) สำเร็จเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
KBANK ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแต่เพียงผู้เดียว(Sole Lender)ในการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อในรูปแบบ Bridging Loan จำนวน 1,800 ล้านบาท เพื่อให้ผู้บริหารใช้ซื้อหุ้น SVI เพิ่มจำนวน 877.31 ล้านหุ้น หรือ 58.48% ของหุ้นทั้งหมด จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด ซึ่งเมื่อรวมกับหุ้นที่มีอยู่แล้วทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักใน SVI โดยถือหุ้นรวมทั้งหมด 1,041.82 ล้านหุ้น ทั้งนี้ ธุรกรรม MBO ดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 23 ก.ย.52 ซึ่งธนาคารได้รับชำระคืนหนี้ Bridging Loan ทั้งหมด
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีล MBO นี้จะเป็นต้นแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวทางการดำเนินธุรกิจของเครือ KBANK ในการเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจรได้อย่างแท้จริง และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธนาคารไทยที่สามารถทำธุรกรรมที่มีความซับซ้อนได้เช่นเดียวกับธนาคารในต่างประเทศ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในหลายรูปแบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดทางธุรกิจและการลงทุน
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI เปิดเผยว่า ในฐานะผู้บริหารของ SVI เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจนี้มาโดยตลอด โดยบริษัทมีรายได้เติบโตโดยเฉลี่ย 25% ต่อปีใน 3 ปีล่าสุด เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Manufacturing Services — EMS) ที่มีกลุ่มลูกค้าลูกค้าที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer-OEM) และลูกค้าที่เป็นผู้รับจ้างออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design House) ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม(Niche Market)จึงมีคู่แข่งในตลาดไม่มาก และได้รับผลกระทบจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าธุรกิจอื่น
ดังนั้นเมื่อ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นโดยกองทุน H&Q ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุน (Venture Capital) จากสหรัฐอเมริกา ที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ต้องการจะถอนการลงทุน เนื่องจากครบอายุของกองทุน และมีความประสงค์จะขายหุ้น SVI ทั้งหมด จึงต้องการที่จะรักษาธุรกิจของบริษัทให้ดำเนินต่อไปภายใต้การบริหารของคนไทย จึงขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นหลักเดิมผ่านการทำธุรกรรม MBO ที่มีความโปร่งใสสูงสุด ซึ่งเครือ KBANK ก็สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน จึงทำให้ดีลดังกล่าวประสบความสำเร็จในที่สุด