โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส(HANA)คาดกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัว และแม้ว่าทั้งปี 52 ยังกำไรต่ำกว่าปีก่อน แต่คาดว่าปี 53 ยอดขายและกำไรจะเพิ่มขึ้นจากธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมาดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว การส่วนแบ่งตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและได้ลูกค้าใหม่จากสหรัฐ ขณะที่การเปิดตัว Window7 ของไมโครซอฟท์ช่วยกระตุ้นยอดการผลิตหน้าจอแบบระบบสัมผัส ทำให้หลายโบรกเกอร์ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น และยังเห็นมี upside
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 30.00 บล.กิมเอ็ง ซื้อ 24.16 บล.ฟิลลิป ซื้อ 23.50 บล.เคจีไอ ซื้อ 23.10
น.ส.ศลยา ณ สงขลา ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)มองว่า กำไรของ HANA ในไตรมาส 3/52 และไตรมาส 4/52 จะออกมาดีและเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาจากไตรมาส 2/52 และในปีหน้าจะเติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง HANA ได้ขยายส่วนแบ่งตลาดหลังได้มีการเจรจากับลูกค้าเสนอปรับราคาขายลงแลกกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ในช่วงก่อนหน้าที่อุตสาหกรรมชะลอตัว
ประกอบกับ บริษัทได้ลูกค้าใหม่จากสหรัฐฯ โดยในช่วงปลายปี ธุรกิจ IC packaging มีแนวโน้มได้แรงหนุนจากโครงการใหม่อันเนื่องมาจากลูกค้าสหรัฐฯ มีนโยบายที่จะ outsource การผลิตมายังภูมิภาคเอเชีย และได้ประโยชน์จกการเปิดตัว Window 7 เพราะบริษัทผลิตหน้าจอระบบสัมผัสได้ ซึ่งปัจจบันมีลูกค้า ได้แก่ HP (Touchsmart) และ DELL
ดังนั้น คาดว่ากำไรของ HANA จะยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 4/52 และคาดหมายกำไรปกติทั้งปี 1.7 พันล้านบาทหรือ 2 บาท/หุ้น ลดลง 8% จากปีที่แล้ว แต่ปีหน้าคาดว่ากำไรจะเติบโตเป็น 2 พันล้านบาท หรือ 2.42 บาท/หุ้น
"เราได้ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมปีหน้าเป็น 24.16 บาท หลังปรับมาอ้างอิง P/E ปีหน้าที่ 10 เท่า จากเดิมอ้างอิงใช้ P/E เฉลี่ยปี 52-53 เดิมก็แนะนำ"ทยอยสะสม"เปลี่ยนเป็น"ซื้อ"ดูเรื่อง upside กับราคาเหมาะสม ก็น่าลงทุน"น.ส.ศลยา กล่าว
ด้าน น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตอนนี้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวหลังจากผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่นมีการเร่งการผลิตจนเต็มกำลังการผลิต เพื่อรองรับขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ จึงคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/52 จะออกมาดี โดยคาดว่าจะมียอดขายโต 18% เป็น 3.8 พันล้านบาท จากไตรมาส 2/52
ส่วนปีหน้าธุรกิจจะดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ HANA เป็นผู้ผลิต IC ที่มีตลาดส่งออกทั่วโลก และสินค้าที่มีมูลค่าสูง และชิ้นส่วน IC เป็นชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ในสินค้า consumer ซึ่งช่วยทำให้ HANA ฟื้นตัวได้เร็วกว่ารายอื่น
ขณะที่กำไรปี 52 คาดว่าจะลดลง 15% จากปี 51 แต่ในปี 53 กำไรจะเติบโต 10%
"เราให้ราคาเหมาะสมที่ 30 บาท บน P/E ที่ 13 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เคยเทรดที่ 13-14 เท่า" น.ส.จิตรา กล่าว
บทวิเคราะห์ของบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดว่า ไตรมาส 3/52 HANA มียอดขายสกุลดอลลาร์ 115 ล้านเหรียญฯ ลดลง 4% เทียบ YoY แต่เพิ่มขึ้น 24% เทียบ QoQ และคาดว่าอัตรากำไรยังอยู่ในระดับสูงจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะเห็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางฝ่ายประมาณการกำไรสุทธิ 544 ล้านบาท ลดลง 6% เทียบ YoY แต่ เพิ่มขึ้น 8% เทียบ QoQ
จากการฟื้นตัวของอุตสหกรรมที่ดีกว่าคาดเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของยอดขายโดย เฉพาะ IC ให้ฟื้นตัวเร็วทำให้ทางฝ่ายปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 52 ขึ้น 9% จากเดิมภายใต้ยอดขายสกุลดอลลาร์ 380 ล้านเหรียญ ลดลง 16% เทียบ YoY และคาดว่า อัตรากำไรในครึ่งปีหลังจะดีกว่าในครึ่งปีแรกจากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และคาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงจากการลดจำนวนพนักงานในช่วงครึ่งปีแรก และปรับประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 1,633 ล้านบาท ลดลง 14% เทียบ YoY
ดังนั้น จึงได้ปรับราคาเหมาะสมในปี 53 เพิ่มเป็น 23.50 บาท จาก 23.00 บาท อิง P/E 11 เท่า จากมุมมองที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ผลักดันให้ยอดขายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว