ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 17.75 จุด รับข่าวแบงค์ชาติอังกฤษขยายโครงการซื้อสินทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 6, 2009 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) ขานรับธนาคารกลางอังกฤษที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 17.75 จุด แตะที่ 5,125.64 จุด

ทิม ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นขานรับธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในการประชุมเมื่อวานนี้ และตัดสินใจขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing: QE) อีก 2.5 หมื่นล้านปอนด์ รวมเป็น 2 แสนล้านปอนด์ โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคาร และดึงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย ซึ่งจนถึงขณะนี้ธนาคารกลางอังกฤษได้ใช้งบไปแล้ว 1.75 แสนล้านปอนด์ในโครงการ QE ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์ธนบัตรเพื่อใช้ซื้อสินทรัพย์จากธนาคารและบริษัทอื่นๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของสหรัฐที่ระบุว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วร่วงลงแตะระดับ 512,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนและลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนต.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานประจำเดือนต.ค.จะร่วงลงอีก 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 9.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี

หุ้นเทสโก้ปิดพุ่ง 2.4% หลังจากบริษัท Delhaize Group ของเบลเยี่ยมซึ่งเป็นเจ้าของเชนซูเปอร์มาร์เกตในอังกฤษ ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2552

ส่วนหุ้นยูนิลีเวอร์ลดลง 1.9% แม้ยูนิลีเวอร์ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รายงานผลกำไรและยอดขายในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ หลังจากที่บริษัทได้ใช้มาตรการลดราคาสินค้าในยุโรปเพื่อดึงดูดผู้ซื้อที่กำลังรัดเข็มขัดในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

โดยรายได้ของยูนิลีเวอร์ซึ่งไม่รวมการซื้อธุรกิจและความผันผวนของค่าเงิน ปรับตัวขึ้น 3.4% มากกว่าค่าเฉลี่ย 3% ของนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์สำรวจความคิดเห็น ขณะที่รายได้สุทธิลดลง 2% แตะ 1.02 พันล้านยูโร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ