บมจ. ไออาร์พีซี จำกัด (IRPC) แจ้งว่า งบการเงินรวมและงบการเงินระหว่างกาลเฉพาะบริษัทสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ได้จัดทำขึ้นโดยใช้ข้อมูลทางการเงิน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ของบริษัทย่อย 1 แห่งที่จัดทำโดยฝ่ายบริหารของ บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) และยังไม่ได้รับการสอบทานจากผู้สอบบัญชี เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนกรรมการและผู้บริหารของบริษัทย่อยดังกล่าว
อย่างไรก็ตามผู้บริหารของบริษัทไม่เชื่อว่าการที่บริษัทไม่มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของบริษัทย่อยดังกล่าวจะมีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่องบการเงินรวมและงบการเงินระหว่างกาลเฉพาะบริษัทสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552
สำหรับงบการเงินรวมสอบทานสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทและบริษัทย่อย มีผลกำไรสุทธิตามงบกำไรขาดทุนรวม 2,299.61 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิรวม 4,430.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,729.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 151.91 โดยมีสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 จำนวนเงิน 47,873.52 ล้านบาทเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวนเงิน 68,727.05 ล้านบาท ลดลง 20,853.53 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30 ในขณะที่มีต้นทุนขายลดลง 27,218.14 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38 ทำให้มีกำไรขั้นต้น เป็นจำนวนเงิน 3,118.66 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีขาดทุนขั้นต้น เป็นจำนวนเงิน 3,245.94 ล้านบาท บาท เพิ่มขึ้น 6,364.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 196 โดย
สาเหตุหลักมาจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนมาก และมีการเปลี่ยนแปลงราคาลดลงอย่างรวดเร็วในปลายไตรมาส ทำให้ต้องตั้งสำรองค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าสุทธิที่คาดว่าจะได้รับของสินค้าคงเหลือจำนวน 4,628.74 ล้านบาท โดยราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 3 ของปีปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 71.61 เหรียญ/บาร์เรลเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 113.34 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 41.73 เหรียญ/บาร์เรล คิดเป็นร้อยละ 37 ขณะที่ในไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ มีระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 152,146 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีระดับการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 159,882 บาร์เรลต่อวัน ลดลงคิดเป็นร้อยละ 5
บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้(ค่าใช้จ่าย)อื่น สำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 เป็นจำนวนเงิน 317.73 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 584.81 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสปัจจุบันมีกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าจำนวน 182.10 ล้านบาท ขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยน ส่วนต่างราคาน้ำมันล่วงหน้าสุทธิจำนวน 30.91 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีขาดทุนจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าจำนวน 208.76 ล้านบาท กำไรจากสัญญาแลกเปลี่ยนส่วนต่างราคาน้ำมันล่วงหน้าสุทธิจำนวน 403.71 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเป็นจำนวน 368.31 ล้านบาท กำไรจากการขายทรัพย์สินลดลงเป็นจำนวน 62.14 ล้านบาท เงินชดเชยภาษีนำเข้าศุลกากรลดลงจำนวน 65.60 ล้านบาท และอื่นๆลดลงเป็นจำนวนเงิน 44.99 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหารบริษัทและบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายในการบริหารสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 เป็นจำนวน 601.65 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 288.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 32 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษให้กับพนักงานที่ลาออกลดลง 162 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาลดลง 38 ล้านบาท ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง 22 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารอื่น ๆ ลดลง 67 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 เป็นจำนวน 232.37 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 577.39 ล้านบาท หรือร้อยละ 71 เนื่องจากในไตรมาสปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากหุ้นกู้ จำนวน 114.30 ล้านบาท และขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าจำนวน 22.87 ล้านบาท ในขณะที่ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากหุ้นกู้ จำนวน 130.47 ล้านบาท และมีขาดทุนจากสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าจำนวน 284.41 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีดอกเบี้ยจ่ายลดลงเป็นจำนวนเงิน 71.08 ล้านบาท