EPFR Global ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกองทุนทั่วโลกเปิดเผยว่า กองทุนรวมหุ้น หรือ อิควิตี้ฟันด์ (Equity Funds) ได้ถอนเงินทุนออกจากตลาดหุ้นทั่วโลก และหันไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดพันธบัตรในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. เนื่องจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ EPFR Global ระบุว่า กลุ่มอิควิตี้ฟันด์ทั่วโลกขาดทุนในตลาดหุ้นรวมกันราว 5.42 พันล้านดอลลาร์ โดย 4 อิควิตี้ฟันด์ยักษ์ใหญ่ในตลาดเกิดใหม่ทำสถิติขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่ยอดการลงทุนของกลุ่มอิควิตี้ฟันด์ในตลาดพันธบัตรมีอยู่ทั้งสิ้น 3.63 พันล้านดอลลาร์ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ย.
"กลุ่มอิควิตี้ฟันด์วิตกกังวลเรื่องธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงธนาคารกลางออสเตรเลียที่ประกาศขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเนเดือนที่ 2 ขณะที่ธนาคารกลางอินเดียและธนาคารจีนเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มด้านการปล่อยเงินกู้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางรายใหญ่ของโลกเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกันแล้ว" EPFR Global กล่าว
ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มีการซื้อขายที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. โดยเฉพาะตลาดหุ้นรัสเซียและเวียดนามที่ร่วงลงอย่างหนัก
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะร่วงลงอีก 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 9.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี บลูมเบิร์กรายงาน