ADVANC เผยปี 52 กระแสเงินสดเพิ่ม เตรียมพร้อม 3G คาดเปิดประมูล Q1/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 6, 2009 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. แอดวานซ์ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส คาดว่าในไตรมาสที่ 4/2552 สถานการณ์จะกลับดีขึ้นจากฤดูกาลที่มีการใช้จ่ายสูงและความเชื่อมั่นที่กลับคืนของผู้บริโภคจากภาวะเศรษฐกิจขาลง โดยทั้งปี 2552 คาดการณ์ว่าการเติบโตของรายได้การบริการไม่รวม IC ยังคงอยู่ในช่วง -3% ถึง 0%

แม้ว่าจะมีการปรับคาดการณ์การเติบโตรายได้ลดลง เอไอเอสคาดว่าจะมีกระแสเงินสดหลังหักเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15% เนื่องจากเอไอเอสได้ดำเนินนโยบายควบคุมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเงินลงทุนเครือข่าย จึงคาดว่า EBITDA margin จะอยู่ในระดับ 41-42% แม้จะปรับคาดการณ์การเติบโตรายได้ลดลง

ทั้งนี้ เอไอเอส ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถประมูลใบอนุญาต 3G ใหม่ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการทั้งหลายในอุตสาหกรรมภายใต้โครงสร้างต้นทุนที่เท่าเทียมกัน โดยเอไอเอสคาดว่ากทช.จะสามารถเปิดให้ประมูลใบอนุญาต3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ได้ภายในไตมาส 1/2553

กลุ่มผู้ใช้บริการ 3G ในปีแรกจะมุ่งเน้นที่ลูกค้าที่ชอบเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือที่รองรับเทคโนโลยี 3G อยู่แล้ว และอยู่ในพื้นที่ที่เครือข่าย 3G ครอบคลุมและด้วยการขยายโครงข่ายอย่างเต็มที่ใน 2-3 ปีแรก ลูกค้าส่วนใหญ่คาดว่าจะย้ายมาใช้บริการ 3G จากเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ถูกลงและเครือข่าย 3G ที่ครอบคลุมมากขึ้น

เอไอเอส คาดการณ์ว่า ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นถึง 120% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัดประกอบกับการถือหลายหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน (Multiple SIMs) ขณะที่คาดว่ารายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีอัตราการเติบโตแบบ CAGR 3% ภายในระยะเวลา 3 ปี และบริษัทจะใช้เงินลงทุนในเครือข่ายทั้งหมดประมาณ 50,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยร้อยละ 10 จะใช้สำหรับบำรุงรักษาโครงข่าย 2G แผนการขยายโครงข่าย 3G ได้แก่ สถานีใหม่สำหรับโครงข่าย 3G การเพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่านสายไฟเบอร์ออปติก การลงทุนในอุปกรณ์สวิทชิ่ง รวมไปถึงอุปกรณ์ทางด้านไอทีต่างๆ

ด้วยเม็ดเงินลงทุนในโครงข่าย 3G นี้ จะทำให้บริษัทสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมตามข้อกำหนดของ กทช คือครอบคลุม 50% ของจำนวนประชากรใน 2 ปี และ ครอบคลุม 80% ของจำนวนประชากรใน 4 ปี การขยายโครงข่าย 3G มีแนวทางที่จะให้เป็นโครงข่ายที่ไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายเดิม

อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกบางส่วนของโครงข่าย เช่น ระบบส่งข้อมูล เสาอากาศหรือพื้นที่ตั้งของสถานีจะเช่าจากโครงข่าย 2G โดยค่าเช่าจะเป็นไปตามอัตราการแบ่งรายได้ที่ระบุไว้ในสัญญาร่วมการงาน นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แม้อยู่นอกบริเวณครอบคลุมของเครือข่าย 3G แนวทางในการมีสัญญาเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างโครงข่าย 3G และ 2G ตามแนวทางปฏิบัติมาตรฐาน และการคิดค่าโรมมิ่งใดๆที่โครงข่าย 2G จะได้รับนั้นจะมีการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามหลักเกณฑ์ที่สัญญาร่วมการงานกำหนดไว้

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เป็นเงินสดประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงข่ายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จะเพิ่มขึ้นในช่วงสามปีแรก การขยายพื้นที่ครอบคลุมและการเพิ่มจำนวนสถานีฐานของโครงข่าย 3G จะทำให้ต้นทุนบำรุงรักษาโครงข่าย ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่าสถานี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับโครงข่ายสูงขึ้น การสร้างภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ 3G และรายการ ส่งเสริมการขายต่างๆ จะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 4-5% ของรายรับทั้งหมดจากปัจจุบันที่ระดับ 3% ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นนี้บางส่วนจะถูกชดเชยจากค่าธรรมเนียมที่ลดลงจากการให้บริการ 3G ดังนั้น อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA margin) คาดว่าจะอยู่ในช่วง 42-43% ในช่วงปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ของการเปิดให้บริการ 3G


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ