นายสมฤกษ์ ตั้งวิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยฮา (KASET) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 53 จะกลับมาเติบโตในอัตราปกติที่เคยเติบโต 20-30% จากปี 52 ที่ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2 พันล้านบาท ซึ่งไม่เติบโตจากปี 51 ที่มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้ปริมาณการสั่งซื้อข้าวลดลงค่อนข้างมาก แต่ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทมีการใช้กำลังการผลิต 80-90% เนื่องจากยอดขายโจ๊กโต 100% และ ยอดขายวุ้นเส้นคัพโต 200%
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตสินค้ากึ่งสำเร็จรูป โดยจะเสนองบลงทุนประมาณ 30-50 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการบริษัทภายในธ.ค.52 นอกเหนือจากงบการตลาดที่บริษัทใช้ปีละ 40 ล้านบาท
บริษัทมีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มอีกในช่วงม.ค.53 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากอาหารกึ่งสำเร็จรูปเพิ่มเป็น 35% จากปีนี้ที่มีสัดส่วน 30%
"ขณะนี้ ราคาข้าวหอมมะลิเก่า ราคาปรับเพิ่มสูงกว่า 1 พันเหรียญ/ตัน จากต้นปีที่ราคาอยู่ที่ 800 เหรียญ/ตัน ถือว่าแนวโน้มราคาสูงต่อเนื่อง จนถึงครึ่งปีแรกของปีหน้า แต่ราคาข้าวก็ยังมีความผันผวนสูง เช่นดียวกับราคาน้ำมัน" นายสมฤกษ์ กล่าว
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปีนี้จะอยู่ประมาณ 13% ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ ระดับ 16% เนื่องจากปี 51 ราคาข้าวปรับขึ้นไปสูงถึง 1,200 เหรียญ/ตัน แต่ราคาข้าวในปี 52 ปรับตัวลดลงตามภาวะที่เป็นจริง ราคาเฉลี่ยประมาณ 900 เหรียญ/ตัน สำหรับปี 53 บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น จากสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 30% และครึ่งปีแรกราคาข้าวคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 900 เหรียญ/ตัน แต่ทั้งปี 53 จะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งเนื่องจากราคาข้าวมีความผันผวน กับปัจจัยเสี่ยงจากภาวะอากาศและความต้องการของตลาดโลก