(เพิ่มเติม) LPN ตั้งเป้าปี 53 รายได้ 1 หมื่นลบ.ยอดขาย 1.3 หมื่นลบ.,ศึกษาตลาดตจว.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 9, 2009 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดที่มีระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นการพัฒนาในย่านแหล่งท่องเที่ยวและอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ คาดว่าจะเห็นในปี 53 ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการเพิ่มรายได้ให้บริษัทมากขึ้น นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯ

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 53 กว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8 พันล้านบาท โดย 9 เดือน บริษัทมีรายได้แล้ว 6.8 พันล้านบาท

"ตอนช่วงต้นปี ผมก็นั่งกุมขมับว่ารายได้ที่ตั้งไว้จะทำได้หรือเปล่า เพราะมีปัจจัยกดดัน และยอดขายเดือน ม.ค.52 ทำได้น้อย แต่พอสิ้นไตรมาส 1 ทุกอย่างกลับมาดี ความมั่นใจก็กลับมา ก็เลยทำให้คิดว่าไม่น่าจะยากสำหรับการทำให้ได้ตามเป้าที่วางไว้"นายโอภาส กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มแล้ว บริษัทก็ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ โดยในปี 53 มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่า 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะมองหาทำเลใหม่ ๆ เช่น ย่านรังสิตที่ดีมานด์ยังมีอยู่จำนวนมาก

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)ในมือราว 5-6 พันล้านบาทที่รอจะรับรู้รายได้ในปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเงินสำหรับการซื้อที่ดินสำหรับปี 53 ไว้ 1.5-2 พันล้านบาท เทียบกับปีนี้ที่มีการทยอยซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปี 53 และ 54

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะเปิดโครงการ 2 โครงการ คือ โครงการลุมพินี วิลล์ ปิ่นเกล้า มูลค่า 3.6 พันล้านบาท และโครงการลุมพินี วิลล์ ลาดพร้าว-โชคชัย 4 มูลค่า 1.3 พันล้านบาท สำหรับโครงการลุมพินี วิลล์ ลาดพร้าว-โชคชัย 4 จะรับรู้รายได้ในปี 53 ส่วนโครงการลุมพินี วิลล์ ปิ่นเกล้าจะรับรู้รายได้ในปี 54

นายโอภาส คาดการณ์ว่า ราคาวัสดุก่อสร้างประเภทเหล็กจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันซึ่งจะมีผลต่อราคาขายปรับขึ้นตาม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับตัวโดยปรับขนาดพื้นที่ห้องพักเหลือ 25 ตารางเมตร จากเดิมที่มีพื้นที่ 30-32 ตารางเมตร และอาจจะเห็นการปรับลดขนาดพื้นที่ลงอีก ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดและความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการคอนโดทาวน์ระดับราคาขาย 6-7 แสนบาทต่อยูนิตที่เคยขออนูมัติจากบีโอไอไว้ บริษัทตัดสินใจที่จะไม่ยื่นขอบีโอไอแล้ว เนื่องจากขนาดพื้นที่ของห้องที่บริษัทเตรียมไว้มีขนาด 25 ตารางเมตร เล็กกว่าขนาดที่ทางบีโอไอกำหนดขนาดไว้ที่ 28 ตารางเมตร

นายโอภาส กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทยังเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ใช้งบ 130 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของยอดขาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ