บมจ.เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่(ACAP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทฯทำสัญญาซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จำนวน 91,874,994 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นร้อยละ 49 ของหุ้นสามัญของบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อย จาก ORIX CORPORATION ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ร้อยละ 20) ของบริษัทฯ โดยเสนอซื้อใน ราคาหุ้นละ 8.27 บาท รวมเป็นมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งสิ้นจำนวน 760 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะทำสัญญากู้เงินจากบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จำนวนเงิน 760 ล้านบาท เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จาก ORIX CORPORATION โดยแต่งตั้งบริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นในการพิจารณาลงมติเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยง ACAP จะจ่ายชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 5 ปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุกๆครึ่งปี และชำระคืนเงินต้นในปีสุดท้าย อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ในประเทศ 4 ธนาคาร ณ วันที่ 3 พ.ย.52 อยู่ที่ 5.935% ต่อปี รวมเป็นดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาการชำระคืนเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 225,530,000 บาท
อย่างไรก็ตาม บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ก็มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ อยู่แล้ว ดังนั้น ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นและทำให้บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 รายได้จากการให้กู้ยืมเงินดังกล่าวก็จะถูกรวมเข้าเป็นรายได้ของบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถชำระหนี้สินทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมที่มีอยู่กับบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ได้ตลอดอายุของสัญญา
ทั้งนี้ ให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา โดยอนุมัติการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2552
บริษัทคาดว่าภายหลังจากการซื้อหุ้นสามัญดังกล่าว จะทำให้บริษัทฯถือหุ้นในบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัดแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งต่อไปบริษัทฯจะดำเนินการพัฒนาบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบัน เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคตที่ดำเนินงานให้เติบโตขึ้นได้