มอร์แกนสแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อาจขยายตัวขึ้น 28% ภายในสิ้นปีหน้า แต่อัตราการพุ่งของดัชนีจะชะลอตัวลงจากปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวสูงขึ้น
โจนาธาน การ์เนอร์ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ดัชนี MSCI ที่ชี้วัดการซื้อขายในตลาดเกิดใหม่จะวิ่งขึ้นไปแตะที่ 1,200 จุด เมื่อเทียบกับที่อยู่ในระดับ 936.36 จุด และคาดว่าดัชนี MSCI Asia Pacific ซึ่งไม่รวมตลาดหุ้นโตเกียวจะขยายตัว 23% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
"ภาพรวมเศรษฐกิจและรายได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะขยายตัวขึ้นอย่างร้อนแรง" การ์เนอร์กล่าวเสริม พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงการเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันที่เดินหน้าเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
ตลาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เป็นแกนนำการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกในปีนี้ โดยดัชนี MSCI ที่ชี้วัดบรรยากาศการซื้อขายหุ้นในประเทศกำลังพัฒนาไต่ระดับขึ้น 65% ในปีนี้ซึ่งนับเป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 ขณะที่ดัชนี MSCI Asian ที่ไม่นับรวมญี่ปุ่นเดินหน้า 60% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ นโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคจะมีอิทธิพลต่อการซื้อขายในตลาดเกิดใหม่ช่วงปีหน้า และนักลงทุนพอใจที่จะซื้อหุ้นพลังงาน และการเงิน ขณะเดียวกันก็ลดการถือครองหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
บลูมเบิร์กรายงานว่า มอร์แกนสแตนลีย์ได้ให้อันดับความน่าเชื่อถือของจีนที่ "overweight" แต่ให้อันดับเครดิตของแอฟริกาใต้ที่ "underweight"