นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI) เปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารในเดือน ต.ค.51 เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ ต.ค.51 ขณะที่ปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 3% ราคาขายตั๋วโดยสารก็ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/52 เชื่อว่าผลประกอบการที่ดีขึ้นไตรมาส 4/52 จะช่วยให้ภาพรวมทั้งปี 52 ดีขึ้นบ้างจากที่คาดว่าจะขาดทุน
แต่ผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างแท้จริง คาดว่าจะเป็นในปี 53
"ในเดือน ต.ค.เป็นเดือนแรกที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าเลือดหยุดไหล ผู้โดยสารดีขึ้น cargo ดี รายได้จากการขายตั๋วกระเตื้องขึ้น แต่ยังไม่พอให้มีกำไรมาก"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน มองว่าในช่วงระยะสั้น การบินไทยต้องเร่งหาเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่ม โดยมองว่าวิธีการเช่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เพื่อรองรับกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตารางการบินฤดูหนาว พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีแผนจะปรับปรุงที่นั่งภายในเครื่องบินจำนวน 18 ลำ ใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มในปี 53 ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 12 ลำ และ โบอิ้ง777 จำนวน 6 ลำ
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การบินไทยคงหนีไม่พ้นที่จะเพิ่มทุน โดยจะเลือกเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม รวมทั้งจะหาเงินกู้ในระยะยาว 7-10 ปี เนื่องจากในปี 53 บริษัทมีภาระต้องชำระหนี้ราว 2.9 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การบินไทยยังกังวลเกี่ยวกับแผนการเพิ่มทุนว่ากระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อาจจะไม่สามารถใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนหุ้นไว้ที่ 51% ได้ เนื่องจากภาครัฐยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับภาระในการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้การบินไทยไม่สามารถคงสถานะความเป็นรัฐวิสาหกิจ และจะเกิดปัญหายุ่งยากขึ้นได้ โดยเฉพาะเรื่องของเงินกู้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน
ส่วนกองทุนวายุภักษ์ที่ถือหุ้นอยู่ประมาณ 21% เป็นการถือทางอ้อมของกระทรวงการคลัง หากให้เข้าช่วยทำหน้าที่เพิ่มทุนแทนกระทรวงการคลังก็อาจจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้
ด้านนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายกลยุทธและพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีนี้(53-57)การบินไทยต้องการเครื่องบินใหม่อีก 11 ลำ โดยอาจใช้วิธีเช่า เช่าซื้อ หรือ ซื้อ เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีเครื่องบินที่ใช้ได้จริง 85 ลำ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยมองว่าต้องเพิ่ม production กับสอดคล้องกับความต้องการที่โต 5-10% ในช่วงตารางการบินฤดูหนาว และ ยังเสี่ยงกับการตัดราคาตั๋ว เพราะทุกสายการบินต่างก็เพิ่มเครื่องบินเช่นกัน
ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีแรก จะมีการปลดระวางเครื่องบินที่มีอายุเกิน 20 ปี จำนวน 21-25 ลำ และ ช่วง 5 ปีที่สองจะปลดระวาง กว่า 30 ลำ