ปตท.เผยกำไร Q3/52 ลดลง yoy จากราคาขายผลิตภัณฑ์ลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 11, 2009 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.(PTT)ชี้แจงผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 3/52 และงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/52 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/51 สรุปได้ดังนี้

หน่วย : ล้านบาท

                                  3Q/2552           3Q/2551              เพิ่มขึ้น / ลดลง
รายได้จากการขายและการให้บริการ       444,474           595,100          -150,626 หรือ -25.3%
EBITDA                             40,499            51,773           -11,274 หรือ -21.8%
กำไร (ขาดทุน) สุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยน       922                25              +897 หรือ +3,517.7%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม       5,296            (3,455)           +8,751 หรือ +253.3%
กำไรสุทธิ                            16,987            17,877              -890 หรือ  -5.0%
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาทต่อหุ้น)            6.01              6.34             -0.33 หรือ  -5.2%

ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายในไตรมาส 3/52 จำนวน 444,474 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/51 จำนวน 150,626 ล้านบาท หรือลดลง 25.3% มี EBITDA จำนวน 40,499 ล้านบาท ลดลง 11,274 ล้านบาท หรือลดลง 21.8% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับลดลง (ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย ใน 3Q/2552 อยู่ที่ระดับ 67.8 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 40.3% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยในไตรมาส 3/51 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 113.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/52 ปตท.และบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 5,296 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/51 ที่มีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 3,455 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมา จากบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากค่าการกลั่น (GRM) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากผลกระทบจากสต๊อก น้ำมัน (Stock gain/loss) เนื่องจากงวดไตรมาส 3/51 มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูงจากการที่ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จ รูปปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากวิกฤตเศรษฐกิจ

ขณะที่บริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์มีผลการดำเนินงานลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (Product-to-feed margin - P2F) ที่ลดลงทุกผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/51 โดยเฉพาะ MEG แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมี สายอะโรเมติกส์จะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น เนื่องจากมี P2F ของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์สูงขึ้น

นอกจากนี้ ปตท.และบริษัทย่อยยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3Q/2551 จำนวน 897 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 3/52 มีกำไรสุทธิจำนวน 16,987 ล้านบาท ลดลงจาก 3Q/2551 จำนวน 890 ล้านบาท หรือ ลดลง 5.0%

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/52 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/52 สรุปได้ดังนี้

หน่วย : ล้านบาท

                                                 3Q/2552     2Q/2552           เพิ่มขึ้น / ลดลง
รายได้จากการขายและการให้บริการ                      444,474     387,056      +57,418 หรือ +14.8%
EBITDA                                            40,499      35,056       +5,443 หรือ +15.5%
กำไร (ขาดทุน) สุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยน                      922       2,840       -1,918 หรือ -67.5%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม                      5,296       8,025       -2,729 หรือ -34.0%
กำไรสุทธิ                                           16,987      19,895       -2,908 หรือ -14.6%
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาทต่อหุ้น)                           6.01        7.04        -1.03 หรือ -14.6%

ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายในไตรมาส 3/52 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/52 จำนวน 57,418 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.8% มี EBITDA เพิ่มขึ้น 5,443 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ที่ปรับตัว เพิ่มขึ้นตามราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น 14.3% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2/52 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.3 เหรียญ สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3/52 ปตท.และบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลงจาก 2Q/2552 ที่ มีส่วนแบ่งกำไรฯ จำนวน 8,025 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจการกลั่นที่มีค่าการกลั่นลดลงจาก Stock Gain ที่ลดลงเนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นใหม่ในประเทศจีนและอินเดีย รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปยัง คงชะลอตัว แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวก็ตาม ในขณะที่บริษัทธุรกิจปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์และสายอะโรเมติกส์มี P2F เพิ่ม ขึ้น

นอกจากนี้ ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากไตรมาส 2/52 ที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 2,840 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 3/52 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ลดลงจากไตรมาส 2/52 จำนวน 2,908 ล้านบาท หรือลดลง 14.6%

ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 52 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 51 สรุปได้ ดังนี้

หน่วย : ล้านบาท

                                     9M/2552      9M/2551          เพิ่มขึ้น / ลดลง
รายได้จากการขายและการให้บริการ        1,135,039    1,677,659      -542,620 หรือ -32.3%
EBITDA                               101,916      134,064       -32,148 หรือ -24.0%
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน                    3,147        1,252        +1,895 หรือ +151.4%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม         15,728       17,638        -1,910 หรือ -10.8%
กำไรสุทธิ                               44,331       73,894       -29,563 หรือ -40.0%
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (บาทต่อหุ้น)              15.69        26.21        -10.52 หรือ -40.1%

งวด 9 เดือนของปี 52 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 1,135,039 ล้านบาท ลดลงจาก 9 เดือนแรกของปี51 จำนวน 542,620 ล้านบาท หรือลดลง 32.3% มี EBITDA จำนวน 101,916 ล้านบาท ลดลง 32,148 ล้าน บาท หรือลดลง 24.0% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาขายที่ปรับตัวลดลงตามราคาในตลาดโลก (ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยใน 9M/2552 อยู่ที่ระดับ 57.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลลดลง 46.9% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยใน 9M/2551 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 107.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)

นอกจากนี้ ปตท.และบริษัทย่อยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 15,728 ล้านบาท ลดลง 1,910 ล้านบาท หรือลดลง 10.8% ทั้งนี้ ส่วนใหญ่มาจากบริษัทในเครือกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่มีผลประกอบการลดลงมากจาก P2F ที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี P2F ของ MEG ที่ลดลงมาก เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ในขณะที่สายอะโรเมติกส์มี P2Fเพิ่มขึ้น ส่วนค่าการกลั่นของโรงกลั่นแบบ Complex (รวมผลจากสต๊อกน้ำมันและผลของการทำ Hedging)ของกลุ่ม ปตท.ลดลงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 1,895 ล้านบาท ส่งผลให้ปตท.และบริษัทย่อยมี กำไรสุทธิ จำนวน 44,331 ล้านบาท ลดลงจาก 9 เดือนของปี 51 จำนวน 29,563 ล้านบาท หรือลดลง 40.0%

ณ วันที่ 30 ก.ย.52 ปตท.และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,099,084 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 624,951 ล้าน บาท โดยเป็นหนี้สินหมุนเวียน 240,565 ล้านบาท (รวมเงินกู้ยืมระยะยาวครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี 29,512 ล้านบาท) เงินกู้ ยืมระยะยาว 326,168 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 474,133 ล้านบาท


แท็ก (PTT)   ปตท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ