(เพิ่มเติม) HTECH จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้นขาย PP ใช้ซื้อเครื่องจักร-เป็นทุนฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 11, 2009 10:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ได้มีมติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญจากทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะนำเงินเพิ่มทุนมาใช้เพื่อรองรับการซื้อเครื่องจักร และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเพื่อเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement:PP) ในราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดของหุ้นบริษัท

ปัจจุบัน HTECH มีทุนจดทะเบียน 240 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 220 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 220 ล้านมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นให้กับ PP คณะกรรมการบริษัท หรือคณะกรรมการบริหาร จะเป็นผู้พิจารณากำหนด เงื่อนไข และรายละเอียดในการเสนอขายต่างๆ รวมถึงการพิจารณากำหนดราคา

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันกำหนดสิทธิ (Record Date) ของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/52 ในวันที่ 25 พ.ย.52 และวันรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น วันที่ 26 พ.ย.52

นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HTECH กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน เนื่องจากช่วงปลายปี 52-53 บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจที่จะต้องใช้เงินทุนเพื่อรองรับการซื้อเครื่องจักร ซึ่งสอดคล้องกับแผนการขยายกำลังการผลิตหรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 53 โดยบริษัทเตรียมที่จะนำเครื่องจักรใหม่เพิ่มเข้ามาอีกจำนวน 4 เครื่อง มูลค่ารวม 43 ล้านบาทที่จะติดตั้งในช่วงปลายเดือน พ.ย.และเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และอีกบางส่วนในช่วงไตรมาส 2/53 อีก 3 เครื่อง อีกประมาณ 30 ล้านบาท

การซื้อเครื่องจักรเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิต นอกจากจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 25%ในช่วงไตรมาส 1/53 แล้วยังจะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรายได้ปี 53 ที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 50% จากปี 52 ซึ่งคาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปี 51 ที่ประมาณ 280 ล้านบาท จากความสามารถในการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท ทั้งการขยายฐานทุนและฐานผู้ถือหุ้นโดยคาดว่าผู้ถือหุ้นจะได้โอกาสเพิ่มจากการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น

“แม้ปัจจุบันบริษัทจะใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งเครื่องจักรใหม่จะเข้ามาเสริมการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ PCD Drill หรือ สว่านปลายเพชร และ Carbide Cutting Tools ที่มีระดับ มาร์จิ้นที่สูง โดยเครื่องจักรใหม่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 25% และคาดว่าจะมีกำลังผลิตเพียงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ ขณะเดียวกันยังจะทำให้บริษัทมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากการซื้อเครื่องจักร เพิ่มสภาพคล่องในเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ขยายฐานทุนและฐานผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าผู้ถือหุ้นจะได้โอกาสเพิ่มจากการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น" นายพีทกล่าวในที่สุด

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/52 สิ้นสุด 30 ก.ย.52 ว่า บริษัท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 22.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 ที่มีกำไรสุทธิ 12.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 88.90 % ส่วนรายได้อยู่ที่ 72.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 51.75 ล้านบาท หรือ 39.73% ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นและบริษัทได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.52 เนื่องจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 3/52 อยู่ที่ระดับ 45.56%

ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินทิศทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์(Hard Disk Drive:HDD) และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปี 53 ว่า ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปี 52 โดยคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% เมื่อเทียบกับปี 52



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ