นางสาวปวีณา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.สหโมเสคอุตสาหกรรม(UMI) คาดว่า บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากผลประกอบการงวดปี 52 มีแนวโน้มพลิกมามีกำไร และบริษัทมีกำไรสะสมอยู่ราว 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะจ่ายได้ตามนโยบายที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
"ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัท turnaround ปีหน้าก็คงจะดีต่อเนื่อง กำไรที่เราดีขึ้น เพราะเราได้มีการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งราคาขายเฉลี่ยก็มากขึ้นด้วย เนื่องจากเน้นเจาะลูกค้ากลุ่ม Hi-end มากขึ้น ปัจจุบันมีอยู่ 30%"นางสาวปวีณา กล่าว
ในปึนี้บริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 2.1 พันล้านบาท จาก 3 ไตรมาสผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมแล้วกว่า 1.6 พันล้านบาท โดยในไตรมาส 3/52 สามารถสร้างรายได้ถึง 569 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท ถือว่าเป็นอัตราเติบโตที่สูงมากสวนทางภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวในปีนี้
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 4/52 อาจจะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 3/52 เพราะเป็นปกติของทุกปีที่ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น
UMI ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/52 พลิกมีกำไร 61 ล้านบาท จาก Q3/51 ที่ขาดทุน 17 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 452% ขณะที่ไตรมาส 1/52 มีกำไร 3 ล้านบาท และ ไตรมาส 2/52 มีกำไร 32 ล้านบาท และทั้งปี 51 ขาดทุน 115 ล้านบาท ฐานะทางการเงินของบริษัทมีหนี้สินต่อทุน(D/E)ที่ 1.14 เท่า มีภาระหนี้ระยะยาว 680 ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น 110 ล้านบาท
นางสาวปวีณา กล่าวว่า ในปี 53 คาดว่ยอดขายจะเติบโต 5-10% สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 20% และขยายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากระดับ 15% ในปีนี้ ประมาณการดังกล่าวอยู่ภายใต้มุมมองว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตประมาณ 3-3.5% จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐและงบไทยเข้มแข็ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ
ดังนั้น คาดว่าในปี 53 บริษัทจะเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตเป็น 80% จากระดับ 75% ในปีนี้ โดยมีกำลังการผลิต 100% ที่ประมาณ 12 ล้านตารางเมตร/ปี โดยบริษัทมีเป้าหมายจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดในระดับ 14% เอาไว้ ด้วยการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้งบการตลาดในปีหน้าเพิ่มเป็น 120 ล้านบาท จากปีนี้ใช้ไปประมาณ 100 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์กระเบื้องใหม่"ดูราเกรส เฮลตี้ ไทล์"ซึ่งเป็นนวตกรรมใหม่ของกระเบื้องที่สามารถปล่อยอิออนลบ และช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตั้งเป้ายอดขายที่ 10 ล้านบาท/เดือน และปีหน้าจะยังคงคอนเส็ปต์ในการออกสินค้าใหม่ที่เน้นด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และสุขภาพของผู้บริโภค