นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU)กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3/52 บริษัทฯ ได้กลับมาดำเนินการผลิตถ่านหินที่เหมืองคิทาดิน-เอ็มบาลุตในประเทศอินโดนีเซียอีกครั้ง จากผลการศึกษาที่แสดงถึงความคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ของเหมืองแห่งนี้ หลังจากได้หยุดการผลิตถ่านหินตั้งแต่ปี 49 เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านพาณิชย์และด้านธรณีวิทยาในเวลานั้น
สำหรับรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/52 (1 ก.ค.-30 ก.ย.52) มีกำไรสุทธิจำนวนทั้งสิ้น 3,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 698 ล้านบาท หรือ 22% เป็นผลจากปริมาณขายถ่านหินจากเหมืองอินโดนีเซียปรับตัวสูงขึ้น และกำไรจากอนุพันธ์ทางการเงินจากสัญญาขายถ่านหินล่วงหน้า
“ปริมาณขายถ่านหินในไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีจำนวน 5.31 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และร้อยละ 18 จากไตรมาส 2/2552 เป็นผลจากปริมาณขายถ่านหินจากเหมืองในอินโดนีเซียเพิ่มสูงขึ้นจากจากสภาวะอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตถ่านหิน
และจากการผลิตที่ราบรื่นในส่วนพื้นที่ใหม่ทางด้านทิศตะวันออกของเหมืองอินโดมินโคที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นมา ส่งผลให้เหมืองอินโดมินโคมีปริมาณขายสูงสุดกว่าทุกไตรมาสที่จำนวน 3.18 ล้านตัน ขณะที่กำไรจากการทำอนุพันธ์ทางการเงินจากการทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าได้ช่วยเสริมอัตรากำไรสุทธิของไตรมาสนี้ด้วย" นายชนินท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาส 3/52 ปรับตัวลดลง 4% จากไตรมาส 2/52 ตามราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่ 69.49 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลง 6% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 17% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการตกลงราคาขายถ่านหินในสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าของไตรมาสนี้ดำเนินการในช่วงปลายปี 51 ซึ่งเป็นช่วงที่สภาวะราคาถ่านหินในตลาดโลกอ่อนตัวลง
ขณะเดียวกันกำไรจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนของไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยมีส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากเหมืองเฮ่อปี้ และกลุ่มบริษัท เอเชียน อเมริกัน โคล์ อิงค์ (AACI) จำนวน 618 ล้านบาท ลดลง 1,144 ล้านบาท หรือ 65% จากไตรมาส 2/52 ทั้งนี้เนื่องจากเหมืองต้าหนิงผลิตถ่านหินลดลงจากการหยุดดำเนินการผลิตเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์เพื่อขนย้ายเครื่องจักร Longwall และติดตั้งในพื้นที่ใหม่ตามแผนการผลิตที่วางไว้
สำหรับธุรกิจไฟฟ้ามีรายได้ที่ดีต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีมีการจ่ายไฟฟ้าในอัตราสม่ำเสมอ ทำให้มีส่วนแบ่งกำไรจำนวน 1,058 ล้านบาท(รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 90 ล้านบาท) ส่วนโรงไฟฟ้าของบริษัท Banpu Power Investment (China) Ltd. หรือ BPIC ในประเทศจีน มีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ มีรายได้จากเงินปันผลจำนวน 239 ล้านบาทจากการถือหุ้นะ 15% ในบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮล์ดิ้ง(RATCH)อีกด้วย
ในไตรมาส 3/52 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 13,881 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 471 ล้านบาท หรือ 3% แบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินจำนวน 12,882 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 93% ของรายได้จากการขายรวม ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 527 ล้านบาท หรือ 4% ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีนจำนวน 999 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% ของรายได้ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 57 ล้านบาทหรือ 6%