นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐถาพิเศษเรื่อง"ตลาดทุนไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง"ในงาน Set in the city ว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าตลาดทุนในอนาคตจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการพัฒนาตลาดทุนเป็นแผนงานระยะ 5 ปีเข้ามามีส่วนช่วยพัฒนา
รวมทั้งมาตรการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนผ่านการออมระยะยาว การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงมาตรการปรับปรุงระบบภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจและสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น
"มาตรการที่เร่งดำเนินการใน 5 ปี รัฐบาลตระหนักดีว่า การแข่งขันจะมีความรุนแรงมากขึ้น จึงต้องออกมาตรการต่างๆ มารองรับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญภายหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ที่สถาบันการเงินได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แต่จนถึงวันนี้ วิกฤติเศรษฐกิจโลก การเข้าถึงแหล่งเงินทุนยังมีผลกระทบในช่วงแรก แต่ระบบสถาบันการเงินไม่ได้เกิดปัญหา และจากการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงมากขึ้น จำเป็นที่รัฐบาลต้องมีการพัฒนาตลาดทุนจนนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย และแผนพัฒนาตลาดทุน
ในแผนพัฒนาตลาดทุน รัฐบาลต้องการเห็นขนาดตลาดทุนไทยเติบโตมากขึ้นเมื่อเทียบเศรษฐกิจของประเทศ จาก 80%ของจีดีพี เป็น 130%ของจีดีพี และส่งเสริมให้ประชาชนมาลงทุนในตลาดทุนเพิ่มจาก 2.4% เป็น 5% และต้องการเห็นประเภทของผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆมากขึ้น
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตลาดทุนไทยจะต้องมีความร่วมมือกับตลาดในภูมิภาคมากขึ้น เพื่อจะมีส่วนช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และเป็นการสร้างเครือข่ายตลาดทุนในภูมิอาเซียน