ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นพลังงาน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 93.79 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2009 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานเพราะกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจฉุดรั้งดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย หลังจากกระทรวงพลังงานรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำสัปดาห์ที่ลดลง ซึ่งช่วยพยุงดาวโจนส์ให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 93.79 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 10,197.47 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 11.27 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 1,087.24 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 17.88 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 2,149.02 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.05 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.24 พันล้านหุ้น

แฟรงค์ อิงการ์รา จูเนียร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Hennessy Funds ในรัฐคอนเน็กติกัต กล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมพลังงาน

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานแม้สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2552 เป็น 84.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 84.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยหุ้นอนาร์ดาโค ปิโตรเลียม ร่วงลง 3.7% หุ้นเรนจ์ รีซอสเซส ปิดลบ 4.3%

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลงแตะระดับ 502,000 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 514,000 คน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ปีนี้ และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค.รวมทั้งข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนพ.ย.

หุ้นวอล-มาร์ท ปิดบวก 0.5% หลังจากวอล-มาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกรายงานผลกำไรรายไตรมาสเพิ่มขึ้น แต่บริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 อาจต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นโคลห์ คอร์ป ปิดบวก 0.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 21%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้น 3Com ทะยานขึ้น 31.1% หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ปิดบวก 4.3% หลังจากมีข่าวว่าเอชพีเล็งซื้อกิจการบริษัท 3Com มูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับซิสโก้ ซีสเต็มส์ ในตลาดเครือข่ายคอมพิวเตอร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ