ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไปในช่วงเช้านี้ โดยหุ้นบริษัทเหมืองดีดตัวขึ้นหลังจากราคาทองคำและโลหะทองแดงปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าการที่บริษัทการเงินและเทคโนโลยีระดมทุนด้วยการออกหุ้นใหม่ จะส่งผลให้มูลค่าหุ้นปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในเอเชียยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่ารัฐบาลในหลายประเทศเตรียมถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.57 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ทรงตัวที่ 118.15 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตขยับลง 1.87 จุด หรือ 0.12% แตะที่ระดับ 1,570.12 จุดหลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าบวก 12.38 จุด แตะที่ 9,782.69 จุด และดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดพุ่ง 236.36 จุด แตะที่ 22,789.99 จุด
หุ้นบริษัท บีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 1.5% และหุ้น ไลไฮร์ โกล์ด ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากราคทองคำและทองแดงในตลาดโลกพุ่งขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มที่สำคัญๆของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น หลังจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานในช่วงเช้าวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ขยายตัวในอัตรา 4.8%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในเอเชียได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าการที่บริษัทการเงินและเทคโนโลยีระดมทุนด้วยการออกหุ้นใหม่ รวมถึงบริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และบริษัท ฮิตาชิ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดดีดตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) หลังจากที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันทำการเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนได้แห่เข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ทั้งนี้ สัญญาทองคำเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,116.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,101.20 - 1,117.40 ดอลลาร์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 73.00 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,270.47 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของวอลท์ ดิสนีย์และบริษัทค้าปลีก ได้ช่วยเพิ่มความหวังให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงก็ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเช่นกัน