นายสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ รองประธานกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น(TTCL) กล่าวว่า ขณะนี้ TTCL กำลังรุกประมูลงานโครงการขนาดกลางและใหญ่ในต่างประเทศหลายโครงการในหลายทวีป อาทิ แอฟริกา ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และเวียดนาม ซึ่งมีมูลค่างานรวมกว่า 39,000 ล้านบาท
สำหรับงานดังกล่าวจะเป็นการรับงานในรูปแบบครบวงจรหรือ EPC ที่ครอบคลุมตั้งแต่ออกแบบวิศวกรรม จัดหาเครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่างานในประเทศ เนื่องจากบริษัทฯจะมีกำไรจากการออกแบบวิศวกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพราะอัตราเงินเดือนวิศวกรในประเทศไทยต่ำกว่าในต่างประเทศ นอกจากนี้การรับงานแบบครบวงจร (EPC) นั้นทำให้บริษัทฯ มีความเสี่ยงน้อยกว่า การรับเฉพาะงานก่อสร้างเพียงอย่างเดียวของบริษัทอื่นๆ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/52 บริษัทฯได้เตรียมเสนองานโครงการที่ยุโรปตะวันออก แอฟริกาและเวียดนามเป็นหลัก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท ปรับลดจากไตรมาส 2/52 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 81 ล้านบาท สวนทางกับกำไรขั้นต้นของไตรมาส 3 ที่เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2 เป็น 225 ล้านบาท โดยในงวด 9 เดือนบริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิ หรือเน็ตมาร์จิ้น เพิ่มขึ้นเป็น 3.28%
TTCL รายงานว่าในช่วง 9 เดือนแรกนี้ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.15% เป็น 286 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 272 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีรายได้รวมที่เติบโตขึ้นเป็น 8,616 ล้านบาท จากรายได้รวม 8,552 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 51
นอกจากนั้น บริษัทฯยังเดินหน้าขยายการรับงานโครงการใหม่ๆจากกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ทั้งบริษัทไทยระดับโลก เช่น กลุ่ม ปตท. และ SCG และลูกค้าต่างชาติ เช่น กลุ่มวินิไท และกลุ่มทุนญี่ปุ่นซึ่งบริษัทฯได้รับความเชื่อถืออย่างสูงในฐานะเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัท โตโย เอ็นจิเนียริง ผู้นำด้านรับเหมาครบวงจรของประเทศญี่ปุ่น
"ขณะนี้บริษัทมีปริมาณงานในมือประมาณ 8,000 ล้านบาทและคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้าจากการประมูลงานที่มูลค่ารวมกว่า 39,000 ล้านบาทโดยบริษัทมีสถิติการชนะการประมูลงานประมาณ 33% ของงานที่เสนอทั้งหมด"นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับปีนี้ทั้งปีบริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมใกล้เคียงกับปีที่แล้วซึ่งอยูที่ 11,000 ล้านบาทและหากบริษัทรักษาปริมาณกำไรสุทธิได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านๆมานี้ TTCL จะสามารถสร้างผลกำไรสุทธิที่สูงกว่าปีที่แล้วซึ่งทำได้ 314 ล้านบาทและจะเป็นผลกำไรสุทธิที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งมา 24 ปี
นายสุวิทย์ กล่าวว่า TTCL สามารถสร้างผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมาตลอดแม้ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือช่วงที่ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างสูงก็ตาม และในงวด 9 เดือนนี้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 0.72 บาท และมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูงที่สุดในกลุ่มผู้รับเหมาคือ 28.5% โดยมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมีเงินสดในมือกว่า 3,300 ล้านบาทและไม่มีภาระหนี้สินที่ต้องเสียดอกเบี้ย