หุ้น TRC ราคาร่วงแรง 16.52% มาอยู่ที่ 1.92 บาท ลดลง 0.38 บาท มูลค่าซื้อขาย 10.97 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.99 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.86 บาท
บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC)และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/52 ขาดทุนสุทธิ 258.58 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.78 บาท ลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.67 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท
พร้อมชี้แจงว่า ไตรมาส 3 ปี 2552 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้จากการให้บริการ 315.90 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.94 และเนื่องจากผลขาดทุนของผลการดำเนินงานโครงการไบโอดีเซลซึ่งเป็นโครงการใหญ่ มูลค่างานตามสัญญา 757 ล้านบาท อีกทั้งมีการตั้งสำรองค่าปรับความล่าช้าของการส่งมอบโครงการ เมื่อรวมกับผลการดำเนินงานของสหการวิศวกรที่ยังคงเกิดผลขาดทุน ทำให้สุทธิแล้วเกิดผลขาดทุนขั้นต้นในไตรมาส 3 จำนวน 30.65 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขาดทุนข้างต้นร้อยละ 9.7
จากการพิจารณาตั้งการด้อยค่าของค่าความนิยม และเงินลงทุนในบริษัทย่อย 109.07 ล้านบาท การสำรองค่าปรับจากความล่าช้าของโครงการ 76.06 ล้านบาทในไตรมาส 3 และการตั้งหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินทดรองจ่ายเพื่อการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเขื่อนสตึงนัม ในไตรมาส 1 จำนวน 38.25 ล้านบาท ส่งผลกระทบให้เกิดขาดทุนสุทธิรวมงวด 9 เดือนจำนวน 234.48 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิร้อยละ 17.45
จากผลขาดทุนที่มีนัยสำคัญในไตรมาส 3 ส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯและบริษัทย่อยปรับตัวสูงขึ้นจาก 0.68 เท่า ณ สิ้นไตรมาสก่อน เป็น 1.16 เท่า
บริษัทย่อยของ TRC คือ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ซึ่ง TRC ได้มาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2550 ด้วยวิธีการแลกหุ้น มูลค่าเงินลงทุน 317.40 ล้านบาท แต่เนื่องจากในระหว่างปี 2552 สหการวิศวกรมีผลประกอบการขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่ามีความไม่แน่นอนในผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับคืนจากการลงทุนในสหการวิศวกรในไตรมาสนี้ บริษัทฯ จึงพิจารณาการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อย เท่ากับการด้อยค่าของความนิยม เต็มจำนวนของค่าความนิยม 109.07 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อทั้งงบเดี่ยวและงบรวม