CGSตั้งเป้ารักษาอันดับ TOP3,ยื่นไฟลิ่ง SBLพ.ย.เริ่มเชิงพาณิชย์ต้นปี 53

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 16, 2009 10:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ติดอันดับ TOP3 เช่นเดียวกับในปัจจุบันที่ส่วนแบ่งทางการตลาดขยับขึ้นมาเป็น 7-8% จากเดิมอยู่ในลำดับที่ 25 หรืออยู่ที่ระดับ 2.5% และคาดว่าบรรยากาศการลงทุนปีหน้าน่าจะมีทิศทางที่ขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าเป็นห่วงและต้องจับตาคือ เสถียรภาพทางการเมือง ที่กดดันบรรยากาศการลงทุน แต่หากพิจารณาในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของเอกชนถือว่ายังมีความแข็งแกร่งอยู่

“ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่า CGS มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะด้านของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ อีกทั้งขณะนี้ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทขยับขึ้นมาอยู่ใน TOP 3 ได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้ว แต่ผู้บริหารยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป"นายประสิทธิ์ กล่าว

CGS เน้นให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารองค์กร และการบริหารความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงการพัฒนาด้านระบบไอทีให้ทันสมัย การมุ่งพัฒนาศักยภาพของทีมมาร์เก็ตติ้ง การขยายธุรกิจในด้านต่างๆ รวมไปถึงขยายฐานนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าสัดส่วนของนักลงทุนจะเพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนสาขาให้บริการมากที่สุด โดยมีมากกว่า 47 สาขาทั่วประเทศ

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการมัดใจลูกค้านั้น บริษัทได้มุ่งขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครบวงจร และครอบคลุมความต้องการหลากหลายรูปแบบ เพื่อเจาะลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ การขยายธุรกิจการยืม และให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ซึ่งภายในเดือน พ.ย.นี้จะยื่นขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)และคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณต้นปี 53 โดยขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว

นอกจากนี้ ยังพัฒนาสินค้าอนุพันธ์(TFEX)โดยเฉพาะสินค้า SET50 Futures และงานด้านวาณิชธนกิจ (IB) ที่ได้ทีมของนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร มาร่วมงานบริหารกองทุนส่วนบุคคล รวมถึงพัฒนาระบบซื้อขายแบบออนไลน์ ที่ปัจจุบันกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ ซึ่งการขยายผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่นั้นเพื่อทำให้ CGS มีอัตรา การเติบโตอย่างมั่นคง และพร้อมที่จะแข่งขันทางธุรกิจได้

“ตอนนี้เราสามารถตอบโจทย์ได้แล้วว่า เราพร้อมที่จะแข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการที่ CGS มีการบริการที่หลากหลาย และสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างครบถ้วน ทำให้บริษัทเป็นโบรกเกอร์ One Stop Service ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน" นายประสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวโน้มดัชนีหุ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 700 จุดได้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ