ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งของสหรัฐและญี่ปุ่น รวมทั้งมติที่ประชุมกลุ่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ให้คงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 86.29 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 5,382.67 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,296.38-5,396.96 จุด
มานุส แครนนี นักวิเคราะห์จากบริษัท MF Global Spreads ในลอนดอนกล่าวว่า หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นหลังจากราคาโลหะทองคำและทองแดงในตลาดโลกพุ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นอันโตฟากัสต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองแดงรายใหญ่ของชิลี พุ่งขึ้น 7.6% ขณะที่หุ้นริโอทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 5.5% หุ้นเอ็กซ์สตราต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองแดงรายใหญ่ พุ่งขึ้น 7.8%
หุ้นลอนมิน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองพลาตินั่มรายใหญ่ของโลก ทะยานขึ้น 9.3% หลังจากนายเอียน ฟาร์เมอร์ ซีอีโอของลอนมินคาดการณ์ว่า อาจเกิดภาวะแร่พลาตินัมขาดแคลนในอีก 2 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งของสหรัฐและญี่ปุ่น โดยสหรัฐรายงานว่ายอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายรถยนต์ ขยับขึ้น 0.2%
ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ขยายตัวในอัตรา 4.8%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว