นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า คาดในปี 53 พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากพอร์ตสินเชื่อในปี 52 ที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 51 ที่อยู่ที่ 5.27 พันล้านบาท โดยในปี 53 พอร์ตสินเชื่อคงจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโดยรวมซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการใช้จ่าย ซึ่งก็จะส่งผลต่อเนื่องกับผู้บริโภคในการซื้อและเช่ารถยนต์ แต่ในส่วนของรายได้คงจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 52 ที่คาดว่ารายได้จะโต 10% จากปี 51 เนื่องจากการเติบโตของรายได้จะโตช้ากว่าพอร์ตอยู่แล้วถึงแม้สัญญาณการเช่าซื้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะพอร์ตเช่าซื้อรถยนต์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาขยายตัว 80% แต่การที่ฐานต่ำหรือคิดเป็นสัดส่วนของรายได้แค่ 2.3% ส่วนที่เหลืออีก 70% กว่ามาจากเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ อีก 25% จากรายได้อื่นๆ นอกจากนี้ ระยะเวลาเช่าซื้อรถยนต์จะนานกว่ามอเตอร์ไซด์
ทั้งนี้ ในปี 53 บริษัทจะให้ความสำคัญในการเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิมที่มีอยู่ 76 สาขา ในปัจจุบัน และจะเพิ่มอีก 2 สาขา ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นต่างจังหวัดโดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนเช่าซื้อที่ปล่อยใหม่ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 80% ใน 5 ปี นับตั้งแต่ปี 52 จากปัจจุบันต่างจังหวัด 60% กทม. 40% ซึ่งก็จะเน้นการให้บริการที่รวดเร็วและคุณภาพของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง
"ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ออกไปศึกษาการเช่าซื้อมอร์เตอร์ไซด์ในประเทศเวียดนาม แต่เป็นเรื่องยากเนื่องจากปัญหาเรื่องเครดิตไม่ดีเรื่องเก็บเงินและที่ผ่านมาเวียดนามมีปัญหาสงครามจึงยังไม่เชื่อมั่นเรื่องการเงิน เลยไม่มองแล้ว ทั้งๆ ที่เวียดนามคนใช้มอเตอร์ไซด์เยอะมาก ถ้าเข้าไปทำก็มีความเสี่ยง" นายประพล กล่าว
สำหรับในปี 52 เชื่อว่ารายได้และกำไรปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่เศรษฐกิจชะลอทำให้คนไม่กล้าตัดสินใจ แต่ตลาดต่างจังหวัดได้รับผลกระทบไม่มาก และขณะนี้คนก็กลับมาเช่าซื้อรถที่มีเครื่องยนต์เล็กลง เพื่อประหยัดน้ำมัน
ในส่วนของการรับซื้อสินทรัพย์ที่บริษัทเคยเจรจาอยู่ 2-3 รายนั้น จากการเจรจาคงจะไม่จบเนื่องจากราคาที่จะขายสูงเกินไปและผลตอบแทนที่ได้ก็น้อยกว่าที่ทำได้ โดยระดับผลตอบแทนที่พอใจในการที่จะเข้าไปซื้อสินทรัพย์ มอเตอร์ไซด์อยู่ที่ 30% รถยนต์ 10% อย่างไรก็ตามก็ยังเปิดกว้างหากมีใครจะมาขายสินทรัพย์ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้ที่รับได้