นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ กรรมการบริหาร บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์(MILL)กล่าวยอมรับว่า ในปี 52 กำไรทั้งปีน่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 357 ล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิเพียง 114 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายปรับตัวลดลงอย่างมาก ประกอบในช่วงไตรมาส 1/52 และ ไตรมาส 2/52 บริษัทได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 52 คาดว่ารายได้จะเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนปี 53 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ(จีดีพี)ที่คาดว่าจะเติบโต 3-4% เนื่องจากมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และยังมีงบลงทุนภายใต้ไทยเข้มแข็งแข้ามาช่วยเพิ่มความต้องการในตลาด
"แม้รายได้ 9 เดือนทำได้ 7.4 พันล้านบาท แต่ทั้งปีเชื่อว่าจะทำได้เกินหมื่นล้านบาท เพราะมี backlog ที่ทอยรับรู้รายได้ใน 2 ไตรมาสจากนี้ กว่า 2 พันล้านบาท....ส่วนกำไรคงต้องน้อยกว่าปีก่อน เพราะปีที่แล้วเป็นปีพิเศษ ราคาผันผวนสูง แต่การเข้าสู่ภาวะปกติเป็นเรื่องที่ดีและควบคุมได้ง่ายกว่า"นายธิติพงศ์ กล่าว
นายธิติพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีออร์เดอร์ 1.2 แสนตันรอส่งมอบในช่วงปลายปี 52 ถึงต้นปี 53 ทำให้บริษัทเดินเครื่องจักร 24 ชั่วโมงมาตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 4/52 จะดีที่สุดในรอบปี และจะช่วยทำให้อัตรากำไรสุทธิที่ 9 เดือนทำได้เพียง 1.6% เพิ่มขึ้นมาเกิน 2% และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3% จาก 2.8% ในไตรมาส 3/52
แต่ในไตรมาสนี้จะไม่มีกำไรจากพอร์ตลงทุนเช่นเดียวกับในไตรมาส 3/52 ที่มีกำไรจากการขายหุ้นในพอร์ต และขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นอีก เนื่องจากภาวะไม่เหมาะสมและมีความเสี่ยงสูง
ส่วนการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MILL อยู่ระหว่างการขออนุมัติออก TDR ในตลาดหุ้นไต้หวันนั้น นายธิติพงศ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างกระบวนการขออนุญาตจากธนาคารแห่งชาติของไต้หวัน รวมทั้ง ก.ล.ต.และ ตลาดหลักทรัพย์ของทางการไต้หวัน โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติและเทรดได้ภายในปีนี้
ที่ผ่านมา จากการสำรวจความสนใจของนักลงทุนไต้หวัน TDR ของบริษัทได้รับความสนใจดีมาก เนื่องจากเป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่ออกตราสาร TDR ในตลาดไต้หวัน ดังนั้น เชื่อว่าหลังจากที่ TDR เข้าเทรดแล้ว บริษัทจะศึกษากรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่างการระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งอาจใช้เป็นช่องทางการระดมทุนในอนาคตได้