ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 30.46 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 18, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกล่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์บวกเพียงเล็กน้อยและภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รวมถึง โฮมดีโปท์ ปรับลดคาดการณ์ยอดขายช่วงปลายปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 30.46 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 10,437.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 1.02 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 1,110.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 5.93 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 2,203.78 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 972 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 6 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.92 พันล้านหุ้น

ยูริ แลนเดสแมน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท ING Investment Management ในนิวยอร์กกล่าวกับเอพีว่า ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากเฟดเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งแม้ว่าทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แต่ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 0.4% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 70.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเช่นกัน

นอกจากนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 17 จุดในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดไว้ที่ระดับ 19 จุด

โธมัส ดีนาโปลี ผู้ตรวจสอบบัญชีประจำรัฐนิวยอร์กของสหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจในย่านวอลล์สตรีทของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะ 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ในรัฐนิวยอร์กที่สามารถทำกำไรได้ถึง 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หลังจากขาดทุนกว่า 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว อีกทั้งพบว่าตัวเลขว่างงานในวอลล์สตรีทอาจมีอยู่ไม่เกิน 35,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ 47,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค. ส่วนวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ

หุ้นกลุ่มค้าปลีกดิ่งลงหลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ รวมถึงโฮมดีโปท์ และแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ยอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้ ส่งผลให้หุ้นโฮมดีโปท์ร่วงลง 2.4% หุ้นทาร์เก็ตส์ดิ่งลง 3% หุ้นแปซิฟิก ซันแวร์ ออฟ แคลิฟอร์เนีย ปิดร่วง 22.6% แต่หุ้นแซคส์ดีดตัวขึ้น 4.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ