โบรกฯแนะ"ซื้อ"CENTEL คาด Q4/52 พลิกฟื้น,ปี 53 รร.เซ็นทรัลเวิลด์มีกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 18, 2009 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL)คาดผลประกอบการงวดไตรมาส 4/52 พลิกฟื้นกลับมาเป็นกำไร จากอัตราการเข้าพักโรงแรมฟื้นตัวดี ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มธุรกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแผนเปิดตัวแบรนด์อาหารใหม่เพิ่มอีก 4 แบรนด์ เป็นแบรนด์ไอศครีม 2 แบรนด์ และอาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์ ภายในไตรมาส 4/52

มุมมองการเติบโตปีหน้า(53)โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่เปิดให้ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 2 จะสร้างผลกำไรแล้ว และน่าจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิให้กับ CENTEL เป็นจำนวน 100 ล้านบาท อีกทั้งปีหน้า CENTEL จะมีรายได้จากบริหารโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ CENTEL ปี 52 ในช่วง 121-256 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไร 324 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 3/52 มีการตั้งสำรองผลตอบแทนกองทุนสมุย แต่ในปีหน้าคงไม่มีแล้ว จึงคาดกำไรสุทธิในช่วง 379-483 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ เป็นผลจากการฟื้นตัวของอัตราการเข้าพัก และการรับบริหารโรงแรมหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

CENTEL และบริษัทย่อย ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/52 ขาดทุนสุทธิ 166.17 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 47.7 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ     ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ไทยพาณิชย์                ซื้อ            5.90
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)         ซื้อ            5.20
          บล.บัวหลวง                  ซื้อ            6.00
          บล.เอเชีย พลัส               ซื้อ            5.00
          บล.ธนชาต                   ซื้อ            4.80
          บล.พัฒนสิน                   ซื้อ            4.90
          บล.กสิกรไทย                 ซื้อ            5.85

น.ส.ปรียนันท์ ตรีเพ็ชรชูพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CENTEL เนื่องจากมีมุมมองการเติบโตในปี 53 จากการดำเนินงานโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 2 ซึ่งจะกลับมามีผลกำไรแล้ว และปีหน้า CENTEL จะมีรายได้จากบริหารโรงแรม เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ แนวโน้มธุรกิจโรงแรมน่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวดีในไตรมาส 4/52 ไปจนถึงปี 53 ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัว

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิของ CENTEL ในปี 52 ที่ 121 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มี 323 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3/52 ได้มีการตั้งสำรองผลตอบแทนกองทุนสมุย แต่ในปีหน้าคาดว่าจะไม่มีแล้ว จึงคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 379 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้

นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ให้เหตุผลที่แนะ"ซื้อ"หุ้น CENTEL โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6 บาท/หุ้น เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 4/52 จะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเป็นผลกำไรได้ จากอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่ฟื้นตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าปีนี้ CENTEL จะมีกำไรสุทธิ 256 ล้านบาท ลดลงจากปี 51 ที่มี 324 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตเท่าตัวจากปีนี้ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 483 ล้านบาท เนื่องจาก CENTEL จะรับบริหารงานโรงแรมอีกหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างประเทศ รวมทั้งจะมีการเปิดแบรนด์อาหารใหม่ในเร็ว ๆ นี้ อย่างแบรนด์ไอศครีมคุณภาพสูง

บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แนวโน้มไตรมาส 4/52 คาดจะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นของ CENTEL จาก ไตรมาส 3/52 จากแรงสนับสนุนช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วยผลักดันอัตราการเข้าพักและค่าห้องพักให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการเปิดบริการโรงแรมใหม่ที่พัทยาเต็มที่ 555 ห้องตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.52 (เปิดบางส่วนเดือน ส.ค. 52) รวมถึงจากค่าธรรมเนียมในการบริหารโรงแรมใหม่ที่มัลดีฟท์ (เปิดเต็ม 112 ห้องในเดือน พ.ย.52)

ด้านธุรกิจอาหาร ก็มีแผนเปิดตัวแบรนด์อาหารใหม่เพิ่มอีก 4 แบรนด์ เป็น แบรนด์ไอศครีม 2 แบรนด์ และ อาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์ ภายใน Q4/52

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน คาดว่า กำไรของ CENTEL น่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ไตรมาส 4/52 เป็นต้นไป โดยคาดว่าในปีหน้า(53)กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 249 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมเครือ CENTEL เป็น 62% และรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่เพิ่มขึ้น 23% y-y

นอกจากนี้ ปีหน้าจะเป็นปีที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ดำเนินการครบรอบ 2 ปีเต็ม จึงคาดว่าจะเริ่มมีกำไรและน่าจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิให้กับ CENTEL เป็นจำนวน 100 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ