โบรกฯ แนะหลีกเลี่ยง SAMART ห่วงกิจการในกัมพูชารับผลกระทบปัญหาขัดแย้ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 19, 2009 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส แนะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้น บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART)ในระยะนี้ เนื่องจากคาดว่าธุรกิจที่ในเครือ SAMART ได้ลงทุนไว้ในประเทศกัมพูชาอาจจะเกิดปัญหา หลังจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ขยายวงกว้างล่าสุดรัฐบาลกัมพูชาเข้ายึดบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดเส้นทางการบินในกัมพูชา และเป็นบริษัทย่อยของ SAMART (100%)

ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชายังคงอนุญาตให้บริษัทแคมโบเดียฯ ดำเนินงานตามปกติ แต่ห้ามมิให้พนักงานคนไทยเข้าปฏิบัติ โดยให้เหตุผลของการเข้ายึดกิจการครั้งนี้ว่า บริษัทดังกล่าวเป็นผู้จารกรรมข้อมูลเส้นทางการบิน และเป็นเหตุผลให้มีการจับกุมวิศวกรคนไทยไป 1 คน ตามที่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา

เอเชียพลัส มองว่าเป็นไปได้ที่การเข้าควบคุมกิจการของบริษัทย่อยดังกล่าวน่ายืดเยื้อและกระทบต่อการรับรู้รายได้และกำไรของ SAMART เนื่องจากบริษัทย่อยแห่งนี้มีรายได้เฉลี่ยปีละ 756 ล้านบาท มีสัดส่วนราว 5% ของรายได้กลุ่ม SAMART (รวม 1.7 หมื่นล้านบาท) แต่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิราว 75 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากเป็นกิจการที่มีอัตรากำขั้นต้นสูงกว่า 10% และสูงกว่าธุรกิจอื่น ๆ หรือคิดเป็น 20% ของกำไรรวมทั้งกลุ่ม 366 ล้านบาท หรือผลกระทบต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของ SAMART จะอยู่ที่ราว 0.08 บาท ซึ่งน่าจะกดดันต่อราคาหุ้นของ SAMART ระยะสั้น

นอกจากนี้ผลกระทบที่อาจจะตามมาคือกิจการลงทุนอื่น ๆ ในกัมพูชาของ SAMART คือโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (KPP) ซึ่งป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับ SCC จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุน และคาดว่าข่าวนี้น่าจะกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนของหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่ม SAMART คือ SAMTEL (SAMART ถือหุ้น 70.29%) และ SIM (58.28%) จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยง เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ