(เพิ่มเติม) "ทรูฯ"เล็งลงทุน 300ลบ.ปี 53 หลังได้ไลเซ่นส์เชื่อมต่อเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 19, 2009 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด ในเครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)คาดว่าในปี 53 จะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาทเพื่อขยายการเชื่อมต่อวงจรสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ รองรับการใช้งานอินเตอร์เนตความเร็วสูง(อินเตอร์เนตบรอดแบนด์)ที่มีเพิ่มขึ้นทุกปี โดยล่าสุดบริษัทได้รับใบอนุญาตการเชื่อมต่อเคเบิลใยแก้วใต้น้ำจาก คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)เป็นรายแรก และคาดว่าในปีหน้ารายได้จะเติบโต 15-20% จากปีนี้ที่มีรายได้ 850 ล้านบาท

นายอโณทัย รัตนกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าลงทุนขยายศักภาพในการให้บริการ เพราะเชื่อว่าแนวโน้มตลาดอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ยังมีความสามารถในการเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้อินเตอร์เนตบรอดแบนด์เพียง 1.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 1-2% ของจำนวนประชากร เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย มีอัตราดังกล่าวสูงถึง 65% ของจำนวนประชากร

สำหรับรายได้ของบริษัทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ราว 850 ล้านบาท และในปี 53 คาดว่าจะเติบโต 15-20% มีโอกาสที่จะทำรายได้ในหลักพันล้านบาท เพราะบรอดแบนด์เติบโต และช่องสัญญาณ(แบนด์วิธ)มีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 53 การใช้แบนด์วิธของไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 120 กิ๊กกะบิต จากปีนี้ที่มี 70 กิ๊กกะบิต

นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารด้านลูกค้าองค์กรและธุรกิจบริการระหว่างประเทศ TRUE กล่าวว่า การได้รับมอบใบอนุญาตครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจของทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ เพื่อรองรับปริมาณการใช้บรอดแบนด์ในประเทศ รวมถึง การเชื่อมต่อวงจรสื่อสารข้อมูลระหว่างประเทศ (IPLC) ของกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งมีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ยังจะเป็นเสมือนพื้นฐานโครงสร้างหลักสำคัญ (Backbone) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี 3G WiMax รวมทั้ง NGN เป็นต้น

นายอโณทัย กล่าวอีกว่า จากการที่ ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ได้รับใบอนุญาตให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์แบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและวงจรสื่อสารข้อมูลส่วนบุคคลตรงกับต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 50 เป็นต้นมานั้น ทำให้เกิดการแข่งขันและเป็นทางเลือกให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ISP และกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพและการให้บริการ ที่ผ่านมามีปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังขยายจุดเชื่อมต่อ POPS (Point of Presence) ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งขยายชุมสาย (Node) ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งยุโรปที่ประเทศอังกฤษ และเอเชีย ที่ฮ่องกง เพื่อเพิ่มคุณภาพในการเชื่อมต่อให้กลุ่มลูกค้า ISP และกลุ่มลูกค้าองค์กรเชื่อมต่อความเร็วได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นทั่วโลก

ดังนั้น การได้รับใบอนุญาตให้สามารถเคเบิลใยแก้วใต้น้ำครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความพร้อมในการให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ที่มีโครงข่ายครบถ้วนทั้งบนพื้นดินและใต้น้ำเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 50 รายให้สามารถใช้งานการเชื่อมต่อโครงข่าย สื่อสารข้อมูล และ อินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ ทรู อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ ได้รับอนุญาตให้สามารถเชื่อมต่อเกตเวย์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ลาว พม่า เวียดนามและกัมพูชา นอกจากจะรองรับปริมาณการให้บริการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการให้บริการเกตเวย์ในภูมิภาคได้อย่างเต็มภาคภูมิ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ