นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้อ่อนตัวลง ไม่มีปัจจัยบวกหรือข่าวดีอะไรเข้ามา ภาพโดยรวมทั่วโลกนักลงทุนเริ่มกังวลและกลับไปถือพันธบัตรมากขึ้น
ส่วนของไทยกรณีมาบตาพุดยังต้องใช้เวลา ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานวันนี้คงจะมีแรงกดดันจากมาบตาพุดต่อและเรื่องของเศรษฐกิจที่กลับมากังวล พวกราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พวกน้ำมันก็ปรับลง
"ไม่มีข่าวดีอะไร คงต้องไปรอซื้อแถวๆ 690 จุดลงไป ตอนนี้กลยุทธ์ wait and see หรือลดการเก็งกำไรไปก่อน ช่วงนี้เน้นหุ้นปันผล" นายสุกิจ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(19 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,332.44 จุด ลดลง 93.87 จุด(-0.90%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,094.90 จุด ลดลง 14.90 จุด(-1.34%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,156.82 จุด ลดลง 36.32 จุด (-1.66%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 189.37 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.12 ดอลลาร์
- "อานันท์" ถก กรรมการ 4 ฝ่ายนัดแรกประกาศวางกรอบแก้ปัญหามาบตาพุด-โครงการลงทุนอุตสาหกรรมทั้งประเทศอีก 200 โครงการที่อาจถูกฟ้อง หวังให้โรงงาน-ชุมชนอยู่ร่วมกันได้ มั่นใจ 4-5 เดือน ปัญหาทุกอย่างจบ ลั่นพร้อมทบทวนมาตรการรัฐที่ดำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 8 ประเภท ส.อ.ท.ระบุแนวทางกำหนดต้องเป็นมาตรฐานสากล
- "อภิสิทธิ์" ประกาศแก้หนี้นอกระบบ 1 ล้านราย "สำเร็จ" ตัดวงจรหนี้สินและความยากจน ชี้ที่ผ่านมา แก้หนี้นอกระบบไม่สำเร็จ เหตุพัวพันกลุ่มอิทธิพล ธ.ก.ส.เตรียม 1 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้หนี้นอกระบบ เปิดให้ประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบโดยสุจริต ลงทะเบียนขอเข้าโครงการผ่านสาขาออมสิน และ ธ.ก.ส.กว่า 1,700 สาขาทั่วประเทศ 1-30 ธ.ค.นี้ โดย 6 แบงก์รัฐจะร่วมปล่อยกู้ พร้อมขู่โทษจำคุกเจ้าหนี้กรณีไม่ลดดอกเหลือ 15% ตามกฎหมาย
- นายกฯ สั่ง "กษิต" งัดข้อตกลงคุ้มครองและดูแลนักลงทุนไทยในกัมพูชา ย้ำยังไม่มีสัญญาณสถานการณ์บานปลาย ขณะที่บัวแก้วเผยยกเลิกเอ็มโอยูไม่ทันสมัยประชุม ขณะที่ผู้บริหารสามารถฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ระบุกำลังขอความช่วยเหลือรัฐบาลช่วยเจรจากัมพูชา
- "อภิสิทธิ์" ระบุมีคนไม่ต้องการให้ปัญหาการเมืองจบ ประเมินวุ่นถึงปีหน้า ยืนยันรัฐบาลไม่หวั่นไหว นักวิชาการ ประเมินปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจ "สมคิด" แนะเร่งฟื้นความเชื่อมั่น และต้องเลิกหลงใหลจีดีพี "ปรีดิยาธร" ชี้ประเทศไทยต้องการผู้นำที่เข้มแข็งและกล้าตัดสินใจทำเพื่อประโยชน์ของชาติ เตือนอย่าห่วงเรื่องคะแนนเสียงมากเกินไป
- กขช.สั่งพาณิชย์ ปรับเกณฑ์ประกาศราคาอ้างอิง รับราคาข้าวผันผวน จาก 15 วันเหลือ 10 วัน ไฟเขียวข้าวเบา 4 แสนตัน ร่วมโครงการประกันราคาตันละ 1 หมื่นบาท "พรทิวา" ปัดร่นเวลาประกาศราคาอ้างอิงข้าว ฟิลิปปินส์วางแผนนำเข้าข้าวเพิ่ม 1.3 ล้านตัน ก่อนสิ้นปีนี้ เผยราคาข้าวตลาดล่วงหน้าทะยาน 36% ตั้งแต่เดือน มี.ค.
- บจ.งวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 323,938 ล้านบาท และมียอดขาย 4,505,970 ล้านบาท ส่วนผลงานไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 24% กลุ่มทรัพยากร-ธุรกิจการเงิน-อสังหาฯ แชมป์กำไรเพิ่มมากสุด ด้านภัทรียาออกโรงเตือนระวังแรงเก็งกำไรหุ้นซีไอเอ็มบี ชี้ข่าวเข้าจดทะเบียน 2 ตลาด ดันราคา 3 วันวิ่ง 120%
- กลุ่ม นปช.จะนัดรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 28 พ.ย.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะปักหลักค้างคืน หลังจากนั้นในวันที่ 29 พ.ย.เมื่อพิธีซ้อมสวนสนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินเท้าไปปักหลักค้างคืนต่อที่บริเวณสี่แยกสวนมิสกวัน และในวันที่ 30 พ.ย.จะแยกย้ายเดินขบวนขับไล่รัฐบาลไปตามถนนสายสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ ก่อนจะกลับมารวบตัวกันเพื่อชุมนุมร่วมกันตามเดิมที่บริเวณสี่แยกสวนมิสกวัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกันกลับบ้านในช่วงเช้ามืดวันที่ 2 ธ.ค.
- "คมนาคม"ดันแผนแม่บทรถไฟฟ้า 12 เส้นทาง มูลค่าลงทุน 811,070 ล้านบาท เตรียมเสนอคจร.พิจารณาก่อนชงและครม.รับทราบและเห็นชอบ หลังแผนแม่บทเดิมล้มเหลว 6ปีทำได้เพียง 39 กิโลเมตร
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553 ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปี 2553 จะขยายตัวในระดับ 2.5-4% หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวตามที่คาดการเมืองมีเสถียรภาพ และไม่มีปัญหาการลงทุนในมาบตาพุด (กรณีปกติ) จีดีพีจะขยายตัวในระดับ 3.2% ถ้าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีกว่าที่คาด (กรณีสูง) จีดีพีจะขยายตัว 4% แต่หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาด การเมืองขาดเสถียรภาพ และมีปัญหาการลงทุนในมาบตาพุด (กรณีต่ำ)จีดีพีจะขยายตัว 2.5%
- หวัดใหญ่ 2009 รอบ 2 มาแล้วพบเด็กนักเรียนนครราชสีมาสมุทรปราการติดเชื้อร้าย ขณะที่ทหารเริ่มป่วยหวัดเกือบทั้งค่าย "วิทยา" ชี้ระบาดเร็วกว่าที่คาด ในชนบท โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ สธ.ปรับกลยุทธ์ 4x4x4x4 ป้องเชื้อร้ายสั่งทุกจังหวัดคุมเข้ม 4 เดือน ตั้งแต่ พ.ย.52 ถึง ก.พ.53 ดูแลกลุ่มเสี่ยง ให้ปรับพฤติกรรมความเป็นอยู่ และเร่ง ปชส.ให้ความรู้ประชาชน
- นายแบงก์ระบุแนวโน้มค่าเงินบาทยังแข็ง คาดสิ้นปีมีโอกาสแตะ 32.90-33 บาท เหตุดอลลาร์ยังอ่อนค่า ขณะที่ ม.ร.ว.จัตุมงคลเผยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้เคียงประเทศคู่ค้า ชี้ ธปท.เข้าแทรกแซงทำได้แค่ประคองไม่ให้ผันผวนและแข็งค่าเร็วเกินไปเท่านั้น