ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 695.25 จุด ลดลง 5.17 จุด(-0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 14,352 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 700.68 จุด จากนั้นช่วงบ่ายเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดจนปิดตลาด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 694.65 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 115 หลักทรัพย์ ลดลง 209 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 128 หลักทรัพย์
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ sideway ปรับฐานลงมาเล็กน้อยไม่ได้มาก ถึงแม้ว่าเมื่อคืนดาวโจนส์จะลงมาถึง 90 กว่าจุด และน้ำมันลงมาอีก 2 เหรียญฯ แต่ดาวโจนส์ลงมาด้วยประเด็นของ take profit และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการดาวน์เกรด และกลุ่มพลังงานเองในช่วงราคาน้ำมันเป็นขาขึ้นหุ้นกลุ่มพลังงานก็ไม่ได้ขึ้นด้วยเพราะฉะนั้นราคาน้ำมันที่มีการปรับฐานลงมาตรงนี้ยังไม่น่าจะส่งผลอะไรมากนักกับหุ้นกลุ่มพลังงานโดยรวม
ประกอบกับในส่วนของนักลงทุนต่างชาติคาดว่าคงจะมีการกลับมาพักเงินในส่วนของกลุ่มแบงก์มากขึ้นทำให้กลุ่มแบงก์เหมือนจะคานกับกลุ่มพลังงานที่มีการอ่อนตัวลงมาบ้างแต่ไม่ได้มาก อีกทั้งวันนี้เป็นวันศุกร์ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่คงจะชะลอการลงทุนออกไปเป็นต้นสัปดาห์เลย ตลาดในวันนี้จึงเงียบเหงา
ทิศทางสัปดาห์หน้าต้องขึ้นอยู่กับ 2 ประเด็นหลัก คือตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่จะประกาศกันในเช้าวันจันทร์ก่อนตลาดเปิด ถ้าออกมาดีกว่าตลาดคาดตลาดน่าจะยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างจะโดดเด่นและต่างชาติน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย อีกเรื่องตามกรณีมาบตาพุดว่าศาลได้รับข้อมูลเพิ่มเติมไปแล้วจะนัดวันในการที่จะเข้ามาฟังว่าจะพิจารณารับคำอุทธรณ์หรือเปล่า
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,597.75 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,321.13 ล้านบาท ปิดที่ 492.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,267.44 ล้านบาท ปิดที่ 231.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 795.36 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.20 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 577.44 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง 1.50 บาท