ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ลบ 14.28 จุดหลังรายได้เดลล์ร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 21, 2009 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างเดลล์และบริษัทรับสร้างบ้านอย่างดี.อาร์. ฮอร์ตัน อิงค์ ที่รายงานตัวเลขรายได้ที่อ่อนตัวลง ประกอบกับธนาคารกลางยุโรปออกมาประกาศว่าจะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษบกิจฉุกเฉินแบบค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 14.28 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 10,318.66 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.52 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 1,087.63 จุด และดัชนี Nasdaq อ่อนตัวลง 10.78 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 2,146.04 จุด

ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า จะค่อยๆถอนเงินสดฉุกเฉินที่ธนาคารได้อัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการหนุนสภาพคล่องทั้งหมดเหมือนกับที่ผ่านๆมา โดยมาตรการที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านราคาจะต้องถูกยกเลิกโดยทันทีและอย่างชัดเจน

ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และสร้างแรงกดดันให้กับหุ้น ขณะที่นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลง

เดลล์เผยรายได้สุทธิร่วงลง 54% และรายได้ในไตรมาส 3 ก็อ่อนตัวลง 15% นับเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้หุ้นเดลล์ร่วงเกือบ 10% หรือ 1.58 ดอลลาร์ แตะ 14.29 ดอลลาร์

หุ้นดี.อาร์. ฮอร์ตัน ดิ่ง 15% แตะ 10.37 ดอลลาร์ หลังจากที่ได้รายงานตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4 ที่ 73 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน

อลัน เกล นักวิเคราะห์อาวุโสของริดจ์เวิร์ท แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิขยายตัวไปอย่างช้าๆนั้น บางบริษัทก็ยังคงขยายตัวได้ดี แต่ก็มีบริษัทที่ไปไม่ได้ดีนักเช่นกัน ตลาดเองอยากจะเห็นบริษัทเอกชนฟื้นตัว แต่รูปแบบการทำธุรกิจของเดลล์ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพพอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ