นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) คาดว่ารายได้ในปีนี้สามารถปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 1,623.72 ล้านบาทได้ โดยบริษัทปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจของบริษัทฯ ที่หันมาเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยตรงเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างครบวงจร ทั้งการผลิต ค้าส่ง ค้าปลีก และการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ
"ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 นี้ ได้พลิกฟื้นขึ้นจากจุดต่ำสุดได้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองภายในประเทศจะยังไม่เอื้ออำนวยนัก แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้ทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 600 ล้านบาท ประกอบกับยอดขายเริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้น และรัฐบาลได้จัดงบประมาณไทยเข้มแข็งเข้ามากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ได้ปรับตัวดีขึ้นดังกล่าว" นายปกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกรายได้ของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับบริษัทฯ มีความเข้มงวดในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้าที่ประเมินแล้วพบว่ามีความเสี่ยงในการชำระเงิน จึงทำให้ยอดขายในช่วงดังกล่าวไม่สูงนัก
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังยึดนโยบายเข้มงวดในการควบคุมสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงต่อหนี้สูญต่อเนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็มีผลทำให้รายได้จากการขายของบริษัทไม่เติบโตโดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราไม่มีปัญหาเรื่อง หนี้สูญติดตามมา
"ปีนี้ยังคงเป้ารายได้ไว้ใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทฯ ไม่ได้เร่งยอดขายและเข้มงวดในการจำหน่ายสินค้า เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี อาจจะมีความเสี่ยงในการชำระเงินของลูกค้าจึงไม่ได้เร่งยอดขาย แต่จะเน้นในเรื่องของคุณภาพในการทำธุรกิจมากกว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า รายได้หรือกำไรจะโตไม่มาก แต่ L&E จะพยายามเน้นนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ' นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2552 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 375 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 8% ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจซึ่งส่งผลให้เกิดการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของการก่อสร้างศูนย์การค้า ร้านค้า โรงแรม และโรงงาน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2552 ที่ทำได้ 303.04 ล้านบาท ในขณะที่ มีกำไรสุทธิ 4.1 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 65% เป็นผลจากยอดขายที่ลดลงในขณะที่ค่าใช้จ่ายร่วมเพิ่มขึ้น 2% เพราะการลงทุนในระบบสารสนเทศและการลงทุนในโชว์รูม Lighting Solution Center แต่ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2/2552 ที่มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 6.96 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 1.57 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 35.81 ล้านบาท และถือว่าเพิ่มขึ้นจากที่ขาดทุน 2.56 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2552