ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) ขานรับยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ นอกจากนี้ การอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจีดีพีและตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 132.79 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 10,450.95 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 14.86 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 1,106.24 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 29.97 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 2,176.01 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 980 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.86 พันล้านหุ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 10.1% แตะระดับ 6.10 ล้านยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 5.54 ล้านยูนิตต่อปี โดยยอดขายเดือนต.ค.ถือเป็นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2550
ไมเคิล โมแรน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไดวา ซีเคียวริตี้ อเมริกา อิงค์ในนิวยอร์กกล่าวราคาบ้านที่ถูกลง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยนโยบายลดหย่อนภาษี 8,000 พันดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.จากก่อนหน้านี้ที่จะครบกำหนดหมดอายุในสิ้นเดือนนี้ ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญภาวะซบเซา อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้มากหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเลขจ้างงานและอัตราการยึดบ้านหลุดจำนอง
การพุ่งขึ้นของยอดขายบ้านมือสองช่วยหนุนหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านทะยานขึ้นด้วย โดยหุ้นดี.อาร์. ฮอร์ตันพุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นเอ็มดีซี โฮลดิงส์ อิงค์ทะยานขึ้น 1.1%
นอกจากนี้ การร่วงลงของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบและทองคำทะยานขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่พยุงหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ทะยานขึ้นด้วย โดยราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดีดขึ้น 9 เซนต์ แตะที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งช่วยหนุนหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปิดพุ่ง 2.6% หุ้นวีเยอร์ฮอเซอร์ โค ปิดบวก 3.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีประจำไตรมาส 3 ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.
วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนต.ค. รวมทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย. นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.
ส่วนวันพฤหัสบดี ตลาดหุ้น ตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากหน่วยงานของรัฐ