ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนเทขาย โดยนิกเกอิถอยร่นลงหลังจากเปิดตลาดในแดนบวกวันนี้เนื่องจากนักลงทุนขานรับการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กและยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 50.32 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 9,447.36 จุด
ฮิโรอิชิ นิชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์นิกโก คอร์เดียล กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดดีดขึ้นสู่แดนบวกหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 10.1% แตะระดับ 6.10 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2550 มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้
แต่ตลาดไม่สามารถรั้งแรงบวกได้และดิ่งลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากนายนาโอโตะ คัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการคลังญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเต็มตัวแล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการระดมทุนของสถาบันการเงินรายใหญ่ในญี่ปุ่น รวมถึงรายล่าสุด มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ สถาบันการเงินปล่อยกู้รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มขนส่งทางอากาศ และกลุ่มไฟแนนซ์ ร่วงลงหนักสุด แต่หุ้นกลุ่มโลหะ กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มเหล็กและสินแร่เหล็ก ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะในตลาดโลกทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้
หุ้นสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 86 เยน หลังจากมีรายงานว่าพนักงานที่เตรียมเกษียณอายุงานของ JAL ไม่ยอมรับนโยบายลดเงินบำเน็จบำนาญ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้กระแสคาดการณ์ที่ว่า JAL จะล้มละลายมีน้ำหนักมากขึ้น