(เพิ่มเติม) "ปิยสวัสดิ์"เผยแผนธุรกิจฉบับใหม่ THAIปี 53-54ตั้งเป้ากำไรเติบโตเท่าตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 24, 2009 13:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI)เดินหน้าร่างแผนธุรกิจปี 53-54 ตั้งความหวังผลักดันผลกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด เสนอบอร์ดเห็นชอบ 28 พ.ย.นี้ ตั้งเป้าสร้างกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาทในปีหน้า ก่อนพุ่งขึ้นเท่าตัวเป็น 8 พันล้านบาทในปีถัดไป พร้อมเตรียมกำหนดแผนจัดหาเครื่องบินระยะยาวในช่วง 10 ปี เพื่อเป็นการวางทิศทางการเติบโตในอนาคต

"แผนปี 53-54 จะเสนอบอร์ดเสาร์นี้(28 พ.ย.)เรากำหนดเป้าทำกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาทในปีหน้าและ 8 พันล้านบาทในปี 54 บนสมมติฐานที่น้ำมัน JET ไม่เกิน 100 เหรียญฯ คิดว่าราคาน้ำมันไม่น่าขึ้นไปมาก และเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง"นายปิยสวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"

แผนธุรกิจระยะ 2 ปีกำหนดเป้าหมายกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาทในปี 53 และ 8 พันล้านบาทในปี 54 โดยในแง่รายได้ปี 53 จะอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 52 ที่มี 1.57 แสนล้านบาท

ทั้งสองปีนี้จะมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)เฉลี่ยปีละ 74% จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 72.3% พร้อมคาดว่าจำนวนผู้โดยสารในปีหน้าจะกลับมาขยายตัว 13.2% ตามการฟื้นตัวของธุรกิจการบิน จากปีนี้ที่จำนวนผู้โดยสารลดลง 7% และปี 54 จะเพิ่มขึ้นอีก 4% อีกทั้งประเมินว่าราคาน้ำมันอากาศยาน(JET)จะไม่พุ่งสูง หรือมีระดับไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากขณะนี้อยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

แผนงานดังกล่าวจะเน้นการเพิ่มรายได้ค่าโดยสารต่อหน่วย(ไม่ร่วมค่าธรรมเนียมน้ำมัน)โดยตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มเป็น 2.10 บาท/คน/กิโลกรัม จากปีนี้ที่ลดลงไปเหลือ 1.99 บาท/คน/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 5%

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า แม้การแข่งขันจะยังรุนแรงต่อเนื่องไปปีหน้า เพราะเป็นช่วงที่จำนวนเตรื่องบินในตลาดมีมากก็ตาม แต่บริษัทจะพยายามขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าองค์กร และเพิ่มช่องทางการตลาดในด้านต่าง ๆ

“ผมไม่คิดว่าเหตุกาณณ์การเมืองในประเทศจะเกิดเหตุรุนแรงเหมือนเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลก็ได้รับบทเรียนแล้ว ก็คงหามาตรการป้องกัน ผมมองเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วง แต่ไม่ถึงขนาดกังวลมากนัก เพราะคิดว่ารัฐบาลน่าจะหาทางป้องกันได้"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกบันเทิงภายในเครื่องบิน 18 ลำ รวมมูลค่า 4 พันล้านบาท โดยจะปรับปรุง เครื่องโบอิ้ง 747 จำนวน 12 ลำ และ เครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 6 ลำ อีกด้านหนึ่งก็จะปรับปรุงระบบไอทีเพื่อเพิ่มช่องทางการขายผ่านอินเตอร์เน็ต

นอกจากการวางแผนธุรกิจในระยะ 2 ปีแล้ว บริษัทยังเตรียมร่างแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ในระยะ 10 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ พร้อมกับแนวทางการเพิ่มทุนและการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทที่จะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้เช่นกัน

ปัจจุบัน การบินไทยมีฝูงบิน 88 ลำ ขณะนี้ใช้งานเต็มกำลังทุกลำ

ทั้งนี้ แหล่งเงินลงทุนจะมาจากผลกำไรของบริษัท และเม็ดเงินจากการการเพิ่มทุน โดยในปี 52 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรก่อนหักค่าเสื่อมและดอกเบี้ย(EBITDA)จำนวน 2.6 หมื่นล้านบาท และในปี 53 คาดว่าจะมี EBITDA ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การเพิ่มทุนของบริษัทจะนำเงินมาช่วยลดหนี้ และใช้ในการลงทุน โดยผลของการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ฐานะการเงินของยริษัทมั่นคงขึ้น และจากที่หลายสายการเบินเพิ่มทุนในปีนี้ ปรากฎว่าราคาหุ้นสูงขึ้นหลังการเพิ่มทุน ได้แก่ แควนตัส, บริติชแอร์เวย์ และ ลุฟท์ฮันซ่า ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระบุว่าหุ้น THAI เมื่อเพิ่มทุนแล้วจะทำให้ราคาหุ้นลงนั้นไม่น่าจะเป็นความจริง

"การเพิ่มทุกครั้งนี้อาจจะไม่ใช่การเพิ่มทุนมาก แต่ขึ้นอยู่กับผลประกอบการปี 53 -54 ซึ่งเป้าหมายที่ทำออกมา ผมว่าน่าจะทำได้ และอาจจะดีกว่าที่ประเมินก็ได้"กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าว

THAI มีทุนจดทะเบียน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ 51.03% และ กองทุนวายุภักษ์ ถือ 17.12% ขณะที่บริษัทมีหนี้สินจำนวนมากถึง 1.6 แสนล้านบาท โดยในปี 53 บริษัทจะทยอยชำระคืนหนี้จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะกู้หนี้ก้อนใหม่ที่มีอายุระยะยาวเพื่อมาชำระหนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ