นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 53 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20- 25% โดยคาดว่ารายได้จะแตะ 350 ล้านบาท โดยประเมินว่าคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งเก่าและใหม่น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% จากปี 52 ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลบวกต่อ HTECH โดยตรงในแง่ของคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหลังของปี 52
แต่บริษัทมองว่ามีโอกาสเห็นรายได้เติบโตถึง 50% ในปีหน้า เพราะ บริษัทจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนพ.ย.นี้ โดยได้เพิ่มเครื่องจักรอีก 4 เครื่อง และมีแผนเพิ่มเครื่องจักรอีก 3 เครื่อง ในไตรมาส 2/53 โดยใช้งบ 35 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยายกำลังการผลิตการตามการเติบโตของHDD ที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และหากปีหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวจริง บริษัทก็จะกำลังการผลิตเพิ่มในส่วนชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะนี้ ก็เริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่า คำสั่งซื้อจะดีต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/53
นายพีท กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิ ใกล้เคียงกับปีนี้ที่ระดับ 27%
ทั้งนี้ ทิศทางของผลประกอบการไตรมาส 4/52 บริษัทประเมินว่าน่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/52 ที่มีกำไรสุทธิ 22.85 ล้านบาท จากรายได้ 72.31 ล้านบาท เนื่องจาก HTECH มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อสินค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
โดยคาดว่า รายได้ในไตรมาส 4/52 จะโตไม่ต่ำกว่า 15% กว่าไตรมาส 3/52 ที่มีรายได้ 72 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อใหม่ และอยู่ระหว่างการส่งมอบ
ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Carbide Cutting Tools ซึ่งเป็นเครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำจาก Carbide ซึ่งมีจำนวนการใช้ 4-5 เท่าตัวของ PCD TOOLและกลุ่มสว่านปลายเพชร (PCD Drill) ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (margin) ค่อนข้างสูง โดยคาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10-15%
นอกจากนี้ในปลายเดือน พ.ย.นี้ บริษัทจะติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 4 เครื่อง มูลค่ารวม 43 ล้านบาท พร้อมเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และบางส่วนจะทยอยเพิ่มเครื่องจักรอีก 3 เครื่องในช่วงไตรมาส 2/53 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25% ในปี 53
“แม้ปัจจุบัน HTECH จะใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% แต่ถือว่ายังไม่เพียงพอกับความต้องการ เราจึงต้องซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเข้ามาเสริมการผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ PCD Drill หรือ สว่านปลายเพชร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงและ Carbide Cutting Tools ที่มีจำนวนความต้องการอยู่ในระดับสูง โดยเครื่องจักรใหม่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 25% และคาดว่าจะมีกำลังผลิตเพิ่มเติมในส่วนของ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรับมือกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรที่ต้องห่วง ผมมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ของบริษัทจะเติบโตที่ระดับ 80% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนมาร์จิ้นปีนี้ก็ปรับตัวดีขึ้น" นายพีท กล่าว
ส่วนแหล่งเงินทุนในการเพิ่มเครืองจักรมาจากรการขายหุ้นเพิ่มทุน แบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 20 ล้านหุ้น ซึงขณะนี้ รอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และจะนำที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลังจากนั้น
"การเพิ่มทุนแบบ PP คาดว่าจะขายให้พันธมิตรและผู้ถือหุ้นรายเดิม คาดว่จะแล้วเสร็จในต้นปี 53 ส่วนราคาขายขขึ้นอยู่ราคาบนกระดาน ซึ่งตามกฎ ก็ต้องเฉลี่ยราคา 7-15 วันก่อนบอร์ดอนุมัติ และ ดิสเคาน์ได้ 10%" นายพีท กล่าว