ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) คาดว่าในปีนี้รายได้และปริมาณการเติมน้ำมันมีแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้
บริษัทปรับคาดการณ์ปริมาณเติมน้ำมันในปี 52 มาอยู่ที่ 4,071 ล้านลิตร/ปี หรือลดลง 6% จากปี 51 ที่ 4,313 ล้านลิตร/ปี ซึ่งถือดีขึ้นจากที่เคยประเมินไว้ช่วงต้นปีไว้ว่าปริมาณเติมน้ำมันปีนี้จะลดลง 7% จากปีก่อน โดยภาพรวมที่ดีขึ้นมาจากตารางการบินที่มากขึ้นและมีการยกเลิกเที่ยวบินน้อยลง โดยเฉพาะบมจ.การบินไทย (THAI)
ทั้งนี้ พบสัญญาณการฟื้นตัวของปริมาณเติมน้ำมัน โดยในเดือน พ.ย.จะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 11.8 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทำให้เที่ยวบินเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ม.ร.วศุภดิศ กล่าววว่า ปัจจัยดังกล่าวทำให้รายได้ของบริษัทในปี 52 มีทิศทางที่ดีขึ้นตามไปด้วย โดยมองว่ารายได้อาจจะลดลง 5% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะลดลง 7% เป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้จำนวนเที่ยวบินมีน้อยลง แต่กลับมาได้เห็นสัญญาณดังกล่าวดีขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.และก.ค.และดีต่อเนื่อง
"ถึงแม้ว่ารายได้จะปรับลดลง แต่ในแง่ของกำไรยังดีกว่าปีที่ผ่านมา และทำให้สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในไตรมาส 3-4 ที่ผลประกอบการดีขึ้นค่อนข้างมาก"ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าว
ทั้งนี้ ในด้านกำไรนั้น อัตรากำไรสุทธิ(net profit margin)คาดว่าจะอยู่ที่ 28% และอัตรากำไรขั้นต้น(gross profit margin) อยู่ที่ 57-58%
ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าวว่า จากการพิจารณาตารางการบินล่วงหน้าของสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะบมจ.การบินไทย พบว่ามีจำนวนเที่ยวบินที่มากขึ้น และจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยว จึงทำให้บริษัทประเมินว่าปริมาณการเติมน้ำมันในปี 53 จะกลับมาเป็นบวกที่ 3% หรืออยู่ที่ 4,182 ล้านลิตร/ปี ขณะที่รายได้บวก 5% ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารักษาระดับยการเติบโตของปริมาณเติมน้ำมันที่ปีละ 3% ตลอดทั้ง 5 ปีข้างหน้านับแต่ปี 53
"ผมคิดว่าในปีหน้าที่เราคาดว่าจะโต 3% ได้เอาปัจจัยไข้หวัดรวมไปแล้ว แต่ไม่ได้เอาเรื่องการเมืองไปคาดคะเน เพราะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องคาดการณ์ลำบาก แม้ตอนนี้สัญญาณการเติมน้ำมันจะเพิ่มขึ้นและดีกว่าที่เราคาดการณ์โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนต.ค."ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณที่ดีขึ้นแต่บริษัทก็ยังให้ความสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โดยวางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ปี 53-55 ต่อเนื่องจากปี 52 ซึ่งจากการควบคุมค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการขอยกเว้นค่าเช่าท่อส่งน้ำมัน Hydrant ไปยังดอนเมืองอีก 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติ เนื่องจากปัจจุบันสายการบินที่อยู่ที่ดอนเมืองมีเพียง 2 สายการบินเท่านั้น คือ สายการบินนกแอร์และวันทูโก และมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2 แสนลิตร/วันเท่านั้น ขณะเดียวกันหันมาใช้รถบรรทุกน้ำมันแทน ซึ่งแม้ว่าต้นทุนสูงแต่ประหยัดกว่าการเช่าท่อ