นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)คาดว่า การเปิดประมูลใบอนุญาตประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 53 จากเดิมล่าสุดที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้อย่างช้าใน ไตรมาส 2/53 เนื่องจากเกิดอุปสรรคในการเปิดประมูลทำให้มีความล่าช้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ประเด็นหลักสุดที่เป็นปัจจัยในการประมูลที่เข้ามาเพิ่มเติม คือการที่จะต้องรอให้กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)ที่ผ่านการสรรหาของวุฒิสภา 4 คนใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งก่อนจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นอกจากนั้น กทช.ยังอยู่ระหว่างการออกกฎระเบียบต่าง ๆ และคุณสมบัติผู้เข้าประมุล ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้
ดังนั้น ในการวางแผนธุรกิจของบริษัทปี 53 จึงยังไม่ได้รวมแผนงานด้าน 3G เพราะกว่าจะประมูลในครึ่งปีหลัง ก็จะทำให้การลงทุนวางระบบและโครงข่ายต้องเลื่อนออกไปด้วย ดังนั้น บริษัทก็ต้องเลื่อนการใช้วงเงินลงทุนใน 3G ออกไปก่อน แต่ก็ยังคาดว่าในปี 53 บริษัทจะมีอัตราการเติบโตจาก Non-Voice มากกว่าธุรกิจ Voice และถึงแม้จะมีธุรกิจ 3G เกิดขึ้นได้ ก็คงยังไม่สามารถสร้างรายได้ที่เติบโตมากนัก
"ที่ผมวิตก กลัวเขาจะไม่เปิดประมูล เพราะที่ผ่านมา มีความล่าช้ามาเรื่อยๆ ผมเชื่อว่า กว่าจะเปิดประมูลได้คงเป็นครึ่งปีหลังของปีหน้า...ตอนนี้เราพร้อมลงทุนจนตัวสั่นแล้ว"นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร มองว่า การที่ บมจ.ทีโอที จะเปิดให้บริการระบบ 3G ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ช่วยลดแรงกดดันของเอกชนจากความคาดหวังจากสังคม และจะประเมินได้ว่าเทคโนโลยี 3G มีความจำเป็นต่อธุรกิจหรือไม่ รวมทั้งเป็นการทดลองตลาด เพราะยังไม่มีผู้บริการรายใดเคยให้บริการ เพราะแม้ว่ารูปแบบ 3G จะไม่แตกต่างจาก 2.5G มากนัก แต่จะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องความเร็วของการส่งข้อมูล ซึ่งสิ่งที่จะตามเรื่องการปรับปรุง application และ content หากยังรอต่อไปอีก คิดว่าสูญเสียโอกาสและการแข่งขัน
ด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานพาณิชย์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC) มองว่า การประมูลใบอนุญาต 3G จะทำได้อย่างเร็วสุดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.53 แต่หากเป็นไปตามคาดการณ์ก็คงยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทต้องใช้เวลาการลงทุนก่อสร้างโครงข่าย ซึ่งจะทำให้สามารถปิดบริการได้ราวปลายปี 53
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดทำแผนธุรกิจในปี 53 ทั้ง 2 รูปแบบ คือ ฉบับที่มีแผนธุรกิจระบบ 3G แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องงบลงทุน เนื่องจาก กทช.ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการเปิดการกระจายบริการทั่วถึง( Roll Out ) ส่วนแผนธุรกิจอีกฉบับไม่มีแผน 3G แต่จะมีการปรับปรุงโครงข่ายระบบ 2 จี หรือขอร่วมกับ บมจ.กสท.โทรคมนาคม อัพเกรดคลื่น 850 เมกกะเฮิร์ต เพื่อพัฒนาตลาดใหม่ๆ
บริษัทก็มองว่าในปี 53 ธุรกิจการให้บริการ Non-Voice จะมีอัตราการเติบโตสูงกว่าธุรกิจ Voice โดย Non-Voice จะเติบโตตามสมาร์ทโฟน โดยบริษัทจะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบล็คเบอรี่วันที่ 2 ธ.ค. 52
ด้านนายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ สำนักงาน กทช. กล่าวว่า กทช.ยังคงเดินหน้าเปิดประมูลใบอนุญาต 3G โดบขณะนี้มีนักลงทุนต่างประเทศติดต่อผ่านหอการค้าต่างประเทศเพื่อแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล และยังเชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็จะไม่มีผลกระทบต่อการเปิดประมูล เพราะ กทช.เป็นองค์กรอิสระ มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจ แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็สั่งไม่ได้
"เราก็ต้องประเมินสถานการณ์ที่ไม่นิ่ง เราต้องวิเคราะห์ประเมินก่อน ยังไง ปีหน้าน่าจะได้ข้อสรุปชัดเจน เรมาองว่า 3G ต้องเดินหน้า มีปัญหาก็ต้องแก้ไข" รองเลขาธิการ กทช. กล่าว